“เพิ่มพูน” ชื่นชมความสำเร็จนักเรียนไทยคว้ารางวัลระดับนานาชาติ พร้อมยืนยันการสอบเข้า ม.1 และ ม.4 ทั่วประเทศ 5-6 เม.ย. นี้ ปลอดภัยแน่นอน 100 %

รมว.ศธ. “เพิ่มพูน” เป็นประธานการประชุมประสานภารกิจ ครั้งที่ 10/2568 ชื่นชมนักเรียนที่มีความตั้งใจและมุ่งมั่นจนสามารถได้รับรางวัลพระราชทาน กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ในเวทีระดับนานาชาติ มั่นใจอาคารเรียนของโรงเรียนทุกแห่งทั่วประเทศเตรียมพร้อมสถานที่สำหรับสอบเข้า ม.1 และ ม.4 ในวันที่ 5 และ 6 เม.ย. 2568 ด้วยความปลอดภัย 100% เร่งขับเคลื่อนขยายผลการอบรมการสร้างและพัฒนาข้อสอบฯ โดยเฉพาะการส่งเสริมการพัฒนาความรู้ ทักษะ และความสามารถในการคิดวิเคราะห์ เพื่อให้ผู้เรียนเป็นผู้ “ฉลาดรู้ ฉลาดคิด ฉลาดทำ” เผยผลการอนุมัติคำร้องขอย้ายข้าราชการครูฯ ผ่านระบบ TRS รวมทุกส่วนราชการ 2,912 ราย เน้นย้ำต้องมีกระบวนการวางแผน การจัดการ และมาตรการรักษาความปลอดภัยในการทำงานที่ชัดเจน ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเราจะสามารถก้าวผ่านไปได้ด้วยดี เพียงขอให้เรา “จับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน” MOE ONE TEAM

2 เมษายน 2568 / พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมประสานภารกิจ ครั้งที่ 10/2568 ณ ห้องประชุมราชวัลลภ และผ่านระบบ e-Meeting

ภายหลังการประชุม รมว.ศธ. พร้อมด้วยนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศธ., นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ ศธ., นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัด ศธ., ว่าที่ ร.ต.ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการ กพฐ., นายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการ กอศ. และนายประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการ สกศ. แถลงข่าว ณ ห้องแถลงข่าว

ก่อนเริ่มการประชุมฯ รมว.ศธ. กล่าวชื่นชมน้อง ๆ นักเรียนที่มีความตั้งใจและมุ่งมั่นทำให้มีผลการเรียนที่ดี จนสามารถได้รับรางวัลพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในเวทีระดับนานาชาติ ถือเป็นการแสดงออกถึงความสามารถ จินตนาการ จนสร้างสรรค์เป็นผลงานที่มีคุณค่า ในกิจกรรมประกวดวาดภาพระบายสี Toyota รถยนต์ในฝัน Toyota Dream Car Art Content ณ ประเทศญี่ปุ่น มีผลงานของเด็กและเยาวชนจากทุกภูมิภาคทั่วโลก กว่า 90 ประเทศ จำนวน 712,852 ผลงาน ผู้ได้รับรางวัล ได้แก่ ด.ญ.วริศรา สัมฤทธิ์ นักเรียนโรงเรียนอนุบาลวังสามหมอ สพป.อุดรธานีเขต 2 ได้รับรางวัลชนะเลิศ Grand Price จากผลงาน “Lunch Car for children” รุ่นอายุ 8 – 11 ปี

รวมทั้งสมาคมเรียงแก้วและกิจกรรมนันทนาการ ได้นำนักเรียนเข้าร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติรายการ WSSA 2024 ASEAN Open Sport Stacking Championships ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ได้รับรางวัล 2 รางวัลได้แก่ ด.ญ.ฐิตาภัทร์ กิจดี โรงเรียนวัดท่าเกวียน (สัยอุทิศ) สพป.ฉะเชิงเทรา เขต 2 ได้รับรางวัล All-Around ชนะเลิศอันดับที่ 1 และ ด.ญ.พิชธิดา สมศรี โรงเรียนวัดท่าเกวียน (สัยอุทิศ) สพป.ฉะเชิงเทรา เขต 2 ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 การแข่งขันประเภทคู่ รุ่นอายุไม่เกิน 10 ปี

จากนั้นได้เริ่มการประชุม โดย รมว.ศธ. กล่าวว่า ขอขอบคุณชาวกระทรวงศึกษาธิการที่ได้ร่วมมือร่วมใจในการจัดงานจัดงานวันคล้ายวันสถาปนาครบรอบ 133 ปี เมื่อวันอังคารที่ 1 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา ถือเป็นการร่วมกันจัดกิจกรรมพร้อมกันทั่วประเทศเป็นปีแรก และการรับบริจาคโลหิตภายใต้โครงการ “ไทยจีนเลือดเดียวกัน” จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน จัดขึ้นทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยมีปริมาณเลือดที่รับบริจาค 370,300 ซีซี ซึ่งกิจกรรมจะจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อไปสู่เป้าหมาย 5 ล้านซีซี ภายในสิ้นปีนี้

สรุปสาระสำคัญจากการประชุม ดังนี้

การสำรวจความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว กระทรวงศึกษาธิการ

รมว.ศธ. กล่าวว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา จนก่อให้เกิดเหตุตึกถล่มในกรุงเทพมหานครฯ กระทรวงศึกษาธิการขอแสดงความเสียใจและส่งกำลังใจไปยังครอบครัวผู้สูญเสีย และได้ดำเนินการสำรวจข้อมูลความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ผ่าน Dashboard ของ ศธ. (https://lookerstudio.google.com/s/t0oKl-h8OG0) สำหรับสถานศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการทุกแห่ง พบว่ามีสถานศึกษาที่รายงานผลกระทบจำนวน 4,151 แห่ง โดยแบ่งเป็น 3 ระดับ คือ โครงสร้างอาคารมีความเสียหายเล็กน้อยหรือไม่มีความเสียหาย สามารถใช้งานได้ปกติ (เสียหายเล็กน้อย/ไม่เสียหาย = สัญลักษณ์สีเขียว) 3,660 แห่ง โครงสร้างอาคารมีความเสียหายปานกลาง สามารถใช้งานได้แต่ต้องระมัดระวังภัยจากเศษวัสดุร่วงหล่นจากชิ้นส่วนโครงสร้างและส่วนประกอบต่าง ๆ ของอาคาร (เสียหายปานกลาง = สัญลักษณ์สีเหลือง) 400 แห่ง และโครงสร้างอาคารมีความเสียหายอย่างหนักและอาจเกิดการพังถล่มได้ หรืออาคารมีสภาพที่เป็นอันตรายถึงชีวิตได้ จึงไม่สามารถให้ใช้งานอาคารต่อไปได้ (เสียหายมาก= สัญลักษณ์สีแดง) 71 แห่ง (สำรวจข้อมูล ณ วันที่ 2 เมษายน 2568 เวลา 16.00 น.)

ความพร้อมอาคารสถานที่ของโรงเรียนในการสอบเข้า ม.1 และ ม.4 ทั่วประเทศ

รมว.ศธ. กล่าวว่า สำหรับการจัดการเรียนการสอนและการสอบเข้า ชั้น ม.1 และ ม.4 ทั่วประเทศ กำหนดวันสอบใหม่ได้เป็นวันเสาร์ที่ 5 และวันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2568 ซึ่งได้สั่งการให้สถานศึกษาทุกแห่งสำรวจอาคารเรียน สถานที่โดยรอบให้มีความปลอดภัยสูงสุด หากโรงเรียนใดยังไม่มีความพร้อมในการจัดสอบสามารถใช้ดุลยพินิจในการเลื่อนการสอบคัดเลือกออกไปก่อนได้จนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ โดยจะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของนักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษาเป็นสำคัญ ประสานผู้เชี่ยวชาญจาก สอศ. มาตรวจสอบอาคารและสถานที่ของอาคารสถานที่ทุกแห่งเพื่อความปลอดภัย และสร้างความมั่นใจให้กับบุคลากร พร้อมเผยแพร่แบบฟอร์มและคำแนะนำต่าง ๆ ให้กับสถานศึกษา เพื่อให้ดำเนินการตามข้อแนะนำอย่างเคร่งครัด และจัดทำแบบสำรวจความเสียหายของหน่วยงานและสถานศึกษาอย่างทั่วถึง ซึ่งหลังจากตรวจสอบอาคารเรียน ล่าสุดโรงเรียนทุกแห่งทั่วประเทศเตรียมพร้อมสถานที่สำหรับสอบเข้า ม.1 และ ม.4 ด้วยความปลอดภัยแน่นอน 100%

นอกจากนี้สำนักงานลูกเสือแห่งชาติ ยังได้ดำเนินการช่วยเหลือประชาชน โดยได้จัดเต็นท์ให้บริการสำหรับผู้ที่ยังเข้าคอนโดมิเนียม หอพัก หรือที่พักไม่ได้ เพื่อให้มีที่พักชั่วคราว จำนวน 75 หลัง โดยประสานงานจุดให้บริการกับกรุงเทพมหานครเพื่อให้ความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว และได้เปิดศูนย์พัฒนาบุคลากรทางการลูกเสือยุวกาชาดและกิจกรรมเยาวชน (ศลยก.) จำนวน 2 แห่ง คือ ศูนย์พัฒนาบุคลากรทางการลูกเสือ ยุวกาชาด และกิจกรรมเยาวชน “กฐิน กุยยกานนท์” อ.เมือง จ.สมุทรปราการ และศูนย์กิจกรรมยุวกาชาดผิน แจ่มวิชาสอน” อีกหนึ่งค่ายลูกเสือกรุงเทพ (พิศลยบุตร) มีอาคารเชลเตอร์ที่พัก จำนวน 10 หลัง อาคารเต็นท์ถาวร จำนวน 15 หลัง สามารถรับรองที่พัก 100 คน ให้บริการประชาชน ในส่วนของ สพฐ. ได้จัดตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังและช่วยเหลือสถานศึกษาที่ประสบเหตุภัยพิบัติแผ่นดินไหว” พร้อมทั้งได้วางแนวทางการดำเนินงานของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษา หากโรงเรียนหรือเขตพื้นที่การศึกษาใดต้องการความช่วยเหลือให้ติดต่อไปยังศูนย์ปฏิบัติฯ ได้ทันที

การขับเคลื่อนการยกระดับคุณภาพการศึกษาสู่มาตรฐานสากล

รมว.ศธ. กล่าวว่า ฝากให้ทุกหน่วยงานเร่งขับเคลื่อนการส่งเสริมและขยายผลการอบรมการสร้างและพัฒนาข้อสอบฯ ซึ่งการพัฒนาคุณภาพการศึกษานั้นเกิดจากความร่วมมือของครู นักเรียน และผู้บริหาร โดยเฉพาะการส่งเสริมการพัฒนาความรู้ ทักษะ และความสามารถในการคิดวิเคราะห์ เพื่อให้ผู้เรียนเป็นผู้ “ฉลาดรู้ ฉลาดคิด ฉลาดทำ” ซึ่งต้องอาศัยการประสานงานระหว่างทุกภาคส่วนอย่างมีประสิทธิภาพ

ความก้าวหน้าการขยายผลการอบรมการสร้างและพัฒนาข้อสอบฯ ในระดับเขตพื้นที่ ทั้งในด้านการอ่าน วิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ มีผู้ลงทะเบียนอบรมไปแล้วกว่า 404,679 คน และอบรมแล้วเสร็จ 305,502 คน ซึ่งแนวทางการนำเสนอผลการอบรมการสร้างและพัฒนาข้อสอบแนว PISA แกนนำคัดเลือกผลงานการสร้างข้อสอบ ฯ เพื่อนำเสนอกระบวนการขยายผลของแกนนำในเขตพื้นที่ ลักษณะและคุณภาพของข้อสอบแนว PISA ที่ได้ และสิ่งที่จะดำเนินการต่อไปในการยกระดับคุณภาพการศึกษา ซึ่งจะนำเสนอเลขาธิการ กพฐ. และรองเลขาธิการ กพฐ. เพื่อคัดเลือกผลงานที่บรรลุผลสำเร็จ นำเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการต่อไป เริ่มดำเนินงานในระหว่างเดือนมีนาคม – พฤษภาคม 2568 ส่วนกิจกรรม “เพิ่มพูน” สมรรถนะความฉลาดรู้ ระยะที่ 1 เริ่มดำเนินการในเดือนพฤษภาคม – สิงหาคม 2568 จะเป็นการทบทวนการอ่าน วิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ ผ่านช่องทาง OBEC CHANNEL YouTube Facebook และเว็บไซต์ WWW.OBECTV.TV ส่วนกิจกรรมระยะที่ 2 จะเริ่มดำเนินการในเดือนพฤศจิกายน 2568 – กุมภาพันธ์ 2569 ต่อไป

แนวโน้มสำคัญด้านการศึกษาในปี 2025

รมว.ศธ. กล่าวว่า การศึกษาของประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ และแนวคิดการเรียนรู้ที่ทันสมัยจะเข้ามามีบทบาทสำคัญ ศธ. จึงต้องมีการปรับตัวและขับเคลื่อนการพัฒนาการศึกษาให้ทันสมัยและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลง รวมถึงการสนับสนุนครูและนักเรียนให้สามารถใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาทักษะได้อย่างเต็มที่

แนวโน้มสำคัญที่ต้องที่อาจะขึ้นในประเทศไทย อาทิ การเกิดขึ้นของโรงเรียนรูปแบบใหม่ เช่น Hybrid Learning Microschools และ Homeschool ที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น การใช้ AI ในการศึกษาอย่างแพร่หลาย ซึ่งจะช่วยพัฒนาทักษะผู้เรียนและลดภาระงานครู การสนับสนุนครูโดยเน้นการพัฒนาวิชาชีพครูและสร้างสมดุลการทำงาน การสร้างวัฒนธรรมโรงเรียนเพื่อการมีส่วนร่วมอย่างยั่งยืน โดยเชื่อมโยงโรงเรียน นักเรียน และผู้ปกครองด้วยกิจกรรมและเทคโนโลยี, และการออกแบบการเรียนรู้ที่ตอบสนองทุกคนผ่าน Universal Design for Learning (UDL) ซึ่งจะช่วยให้ทุกคนสามารถเรียนรู้ได้ตามความต้องการ

ติดตามการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2568

รมว.ศธ. กล่าวว่า การดำเนินงานติดตามและเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณของ ศธ. เป็นเรื่องที่มีความสำคัญ ในขณะนี้หลายหน่วยงานยังมีอัตราการเบิกจ่ายไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานต่าง ๆ และการสนับสนุนโครงการที่สำคัญสำหรับการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ดังนั้น ขอให้ทุกหน่วยงานเร่งรัดการติดตามและดำเนินการเบิกจ่ายงบประมาณอย่างเร่งด่วน เพื่อให้สามารถใช้จ่ายงบประมาณได้ครบถ้วนตามแผนงาน โดยคาดหวังว่าในภายในวันที่ 30 เมษายน ทุกหน่วยงานจะสามารถดำเนินการให้เสร็จสิ้นอย่างครบถ้วนและตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เพื่อให้เห็นผลกระทบที่ชัดเจนว่าเม็ดเงินที่ ศธ. ได้จัดสรรไปนั้นสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้เรียนในด้านต่าง ๆ

ผลการอนุมัติคำร้องขอย้ายข้าราชการครูฯ ผ่านระบบ TRS

รมว.ศธ. กล่าวว่า การย้ายข้าราชการครูฯ ผ่านระบบ TRS ถือว่าได้ดำเนินการตามเป้าหมาย ซึ่งในการดำเนินการครั้งต่อไปขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการตรวจสอบข้อมูลให้ครบถ้วนและแม่นยำยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ขอย้ายและสามารถติดตามผลได้โดยเร็ว

ผลการอนุมัติการขอย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ผ่านระบบ TRS ครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ. 2568 ข้อมูล ณ วันที่ 1 เมษายน 2568 จากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่ามีการย้ายรวม 2,617 ราย แบ่งเป็นกรณีปกติ 2,171 ราย กรณีสับเปลี่ยน 385 ราย กรณีพิเศษ 42 ราย และกรณีเพื่อประโยชน์ของทางราชการ 19 ราย ส่วนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา การย้ายกรณีปกติ 28 ราย และกรณีสับเปลี่ยน 20 ราย สังกัดกรมส่งเสริมการเรียนรู้ การย้ายกรณีปกติ 211 ราย และกรณีสับเปลี่ยน 36 ราย รวมทั้งสิ้นทุกส่วนราชการ 2,912 ราย

สื่อคณิตศาสตร์และการขับเคลื่อน STEM ศึกษา

รมว.ศธ. กล่าวว่า สิ่งสำคัญในการจัดทำสื่อต่าง ๆ คือการเผยแพร่ การทำให้สังคมรับรู้และสามารถนำไปใช้และต่อยอดการเรียนรู้ได้ รวมถึงการทำให้เด็กสามารถเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากหนังสือเรียนแล้ว คู่มือครูผู้สอนและศูนย์เด็กเล็กก็มีบทบาทสำคัญในการปลูกฝังทักษะตั้งแต่ช่วงแรกของชีวิต เพื่อให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์อย่างมีตรรกะ มีลำดับขั้นตอนที่ชัดเจน ตั้งแต่ระดับเด็กเล็กจนถึงวัยรุ่น ซึ่งเป็นการพัฒนาความสามารถในทุกมิติ

โดย สสวท. ได้จัดทำหนังสือเรียนและคู่มือครูในรายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐานและวิชาเพิ่มเติมคณิตศาสตร์สำหรับนักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษามัธยมศึกษาตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยเน้นการพัฒนาเนื้อหาผ่าน Interactive และ Augmented Reality (AR) เพื่อเสริมการเรียนรู้ นักเรียนสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน AR สสวท. คณิตมัธยม ซึ่งจะมีแบบทดสอบก่อนเรียนและแบบทดสอบเพื่อเสริมความรู้ในชุดกิจกรรมการเรียนรู้ นอกจากนี้ยังมีการขับเคลื่อนการศึกษาด้านสะเต็ม (STEM) ตั้งแต่ระดับปฐมวัยถึงมัธยมศึกษาจาก STEM to STEM โดยการจัดตั้งศูนย์สะเต็มแห่งชาติและศูนย์ภูมิภาค 13 ศูนย์ รวมถึงการจัดทำชุดกิจกรรมสะเต็มศึกษาและการอบรมครูผ่านเครือข่ายมหาวิทยาลัยราชภัฏต่าง ๆ การจัดทำชุดกิจกรรมสะเต็มศึกษาตามหลักสูตรแกนกลาง และการอบรมครูด้วยระบบทางไกลผ่าน DLTV รวมถึงการจัดทำโครงสร้างวิทยาศาสตร์พลังจิตที่ขับเคลื่อนจาก STEM สู่ STEM

เป้าหมายของการจัดการเรียนรู้ STEM คือ “ภายในปี 2570 ครูจะสามารถออกแบบการจัดประสบการณ์เรียนรู้บูรณาการปฐมวัยแบบสืบเสาะและสอนโครงงานตามบริบทของโรงเรียนได้” โครงการวิทยาศาสตร์พลังจิตมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ผ่านการปรับปรุงหลักสูตร การสร้างเครือข่ายการพัฒนาศักยภาพระหว่างมหาวิทยาลัย โรงเรียน ครูผู้สอน และนักเรียน รวมถึงการเพิ่มสมรรถนะของนักเรียน โครงการบูรณาการสะเต็มศึกษา จะพัฒนาชุดกิจกรรมสะเต็มศึกษาที่มีรูปแบบสหวิทยาการ ได้แก่ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และการออกแบบเชิงวิศวกรรม พร้อมกับการจัดอบรมครูและครูพี่เลี้ยงในรูปแบบทางไกลผ่าน DLTV สำหรับโครงการวิทยาศาสตร์พลังจิต

มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2568 ที่เกี่ยวข้องกับ ศธ.

รมว.ศธ. กล่าวว่า มติคณะรัฐมนตรีที่สำคัญ เห็นชอบตามที่ ศธ. เสนอพิจารณาอนุมัติการปรับเพิ่มค่าตอบแทนครูและค่าบริหารจัดการสำหรับโรงเรียนเอกชนในระบบและนอกระบบที่สอนศาสนาอิสลามใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีรายละเอียดการปรับเพิ่ม ดังนี้

1. ตาดีกา เพิ่มอัตราค่าตอบแทนครูศาสนาจาก 3,000 บาท เป็น 3,500 บาท และเพิ่มอัตราค่าบริหารจัดการจาก 2,000 บาท เป็น 3,000 บาท
2. สถานศึกษาปอเนาะ โต๊ะครู และผู้ช่วยครู เพิ่มอัตราค่าตอบแทนจาก 2,000 บาท เป็น 3,500-4,000 บาท และเพิ่มอัตราค่าบริหารจัดการจาก 1,000 บาท เป็น 3,000 บาท
3. โรงเรียนเอกชนในระบบที่สอนศาสนาอิสลาม เพิ่มอัตราค่าตอบแทนครูสอนศาสนา จาก 2,000 บาท เป็น 3,500 บาท โดยอัตราค่าบริหารจัดการจะยังคงหลักการเดิมที่ไม่เคยได้รับการจัดสรร
4. โรงเรียนเอกชนนอกระบบที่สอนศาสนาอิสลาม เพิ่มอัตราค่าตอบแทนครูสอนศาสนา จาก 2,000 บาท เป็น 3,500 บาท และเพิ่มอัตราค่าบริหารจัดการจาก 1,000 บาท เป็น 3,000 บาท

โดยการปรับเพิ่มค่าตอบแทนและค่าบริหารจัดการครั้งนี้ใช้งบประมาณรวมทั้งสิ้น 169 ล้านบาทต่อปี ซึ่งจะขอรับการจัดสรรจากงบประมาณปี 2569 เป็นต้นไป เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาของจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีลักษณะพิเศษและมีความละเอียดอ่อน โดยมีเป้าหมายในการให้ความเป็นธรรมและเสริมสร้างความมั่นคงในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อให้เกิดสันติสุขและสมานฉันท์ในสังคม

รวมทั้ง อนุมัติโครงการขยายผลการพัฒนาตามแนวพระราชดำริในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี “ครัวโรงเรียน สู่ ครัวบ้าน” (โครงการขยายผลการพัฒนาตามแนวพระรดำริฯ) (ทุนการศึกษา “วรเกษตรเมธี”) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 – 2572 รวม 5 ปี (ปีการศึกษา 2567 จำนวน 19 ทุน ปีการศึกษา 2568 จำนวน 18 ทุน รวม 37 ทุน และปีการศึกษา 2569-2572 ปีละ 20 ทุน) เป็นเงินรวมทั้งสิ้น จำนวน 2,340,000 บาท และเห็นชอบ (ร่าง) แผนการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2566 – 2570)

การสื่อสารประชาสัมพันธ์กระทรวงศึกษาธิการ

รมว.ศธ. กล่าวว่า ในการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ขอให้มีการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ที่มีประสิทธิภาพ กระทรวงศึกษาธิการมีสื่อประชาสัมพันธ์ที่ดีอยู่แล้ว แต่จำเป็นต้องร่วมมือกันในการผลิตและเผยแพร่ข้อมูลให้ทั่วถึงและรวดเร็ว ดังเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ผ่านมา ซึ่ง ศธ. ต้องดำเนินการสื่อสารควบคู่ไปกับสื่อหลักที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถดูแลบุคลากรทางการศึกษาและประชาชนได้อย่างทันท่วงที ทั้งนี้ขอขอบคุณสำนักงานลูกเสือแห่งชาติที่ให้การสนับสนุนที่พักชั่วคราวสำหรับผู้ประสบภัยที่ไม่สามารถกลับเข้าที่พักได้ แต่ก็จำเป็นต้องมีการประชาสัมพันธ์ข้อมูลอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที

นอกจากนี้ ศธ. ยังให้ความสำคัญกับการเผยแพร่สื่อการเรียนการสอน โดยเฉพาะในเรื่องการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน ตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้ถูกบรรจุไว้ในหลักสูตรการเรียนการสอนและคู่มือการศึกษาแล้ว ขอให้นำเนื้อหาเหล่านี้มาเผยแพร่อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับนักเรียนและประชาชน ตลอดจนเสริมสร้างความพร้อมในการเผชิญเหตุการณ์ต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ

“ขอให้ทุกฝ่ายรวมพลังในการขับเคลื่อนและพัฒนาการศึกษาให้มีความก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น เพื่อให้การศึกษามีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยต้องมีกระบวนการวางแผน การจัดการ และมาตรการรักษาความปลอดภัยในการทำงานที่ชัดเจน ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเราจะสามารถก้าวผ่านไปได้ด้วยดี เพียงขอให้ร่วมกัน “จับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน” MOE ONE TEAM”

อานนท์ วิชานนท์ / ข่าว
อินทิรา บัวลอย / ภาพ
สมประสงค์ ชาหารเวียง / วีดิทัศน์

The post “เพิ่มพูน” ชื่นชมความสำเร็จนักเรียนไทยคว้ารางวัลระดับนานาชาติ พร้อมยืนยันการสอบเข้า ม.1 และ ม.4 ทั่วประเทศ 5-6 เม.ย. นี้ ปลอดภัยแน่นอน 100 % appeared first on กระทรวงศึกษาธิการ.