25 กุมภาพันธ์ 2568 –  นายพิเชฐ โพธิ์ภักดี รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ได้กล่าวต้อนรับ Ms. Marina Patrier (นางสาวมารีนา ปาทรีเย) รองผู้อำนวยการและหัวหน้าฝ่ายการศึกษา สำนักงานยูเนสโก กรุงเทพฯ พร้อมคณะ และมีความยินดีอย่างยิ่งที่จะได้มีโอกาสหารือแลกเปลี่ยนร่วมกันในวันนี้ 

โดยกล่าวถึงข้อริเริ่มของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ ซึ่งได้กำหนดนโยบาย“เรียนดี มีความสุข” (Happy Learning) และหลักการทำงาน “จับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน” (Join hands and walk Together) เน้นเด็กเป็นศูนย์กลาง (Student-centered) เพื่อพัฒนาการศึกษาสำหรับทุกคน (Education for All) และให้ทุกคนได้มีโอกาสเข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียม (All for Education) รัฐมนตรีฯ ยังให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหา “เด็กหลุดจากระบบการศึกษา” ให้เป็นศูนย์(Thailand Zero Dropout) โดยไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง (No One Left Behind) และได้พยายามผลักดันให้เด็กกลับเข้ามาเรียนในโรงเรียนจนบรรลุผลสำเร็จ ซึ่งรัฐบาลให้การสนับสนุนในเรื่องของชุดนักเรียน โครงการอาหารกลางวัน โครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน การดูแลสุขภาพและโภชนาการของเด็ก 

รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า สิ่งสำคัญประการหนึ่ง คือ ความท้าทายด้านทักษะภาษาอังกฤษ ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการได้ดำเนินการจัดตั้งคณะทำงานเพื่อพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษให้กับครูและนักเรียน รัฐมนตรีฯ ยังเน้นย้ำเรื่องการพัฒนาผลคะแนนสอบ PISA เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา ซึ่งต้องผลักดันครูให้ทำงานหนักมากขึ้น ปรับรูปแบบการจัดการเรียนการสอนจากเดิม และเน้นเด็กเป็นศูนย์กลางโดยให้มีส่วนร่วมในห้องเรียน รู้จักคิดวิเคราะห์ เรียนรู้ด้วยตนเอง และรู้จักสอบถามเพื่อสะท้อนคิดในสิ่งที่ได้เรียนรู้ เป้าหมายสำคัญ คือ การพัฒนาครูและนักเรียนให้เกิดการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องและตลอดชีวิต (Lifelong Learning) 

ทั้งนี้ รัฐมนตรีฯ พร้อมที่จะดำเนินความร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ ให้มากขึ้น เช่น งานเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-จีน เป็นต้น ในส่วนของโครงการความร่วมมือกับยูเนสโก ได้แก่ เครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโก (UNESCO Creative Cities Network – UCCN) และเครือข่ายระดับโลกด้านเมืองแห่งการเรียนรู้ขององค์การยูเนสโก (The UNESCO Global Network of Learning Cities: GNLC) ซึ่งปัจจุบันมีเมืองที่เป็นสมาชิกเครือข่ายฯ จำนวน 10 เมือง และกระทรวงศึกษาธิการมีแผนจะผลักดันเมืองของไทย จำนวน 7 เมืองเข้าเป็นสมาชิกเครือข่ายดังกล่าว โดยจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง 17 เมืองมาประชุมร่วมกันเพื่อนำเสนองานที่โดดเด่นของเมืองแต่ละแห่ง นอกจากนี้ รองปลัดฯ ยังได้กล่าวถึงโครงการที่รัฐบาลไทยให้ความสำคัญ อาทิ โครงการ1 อำเภอ 1 ทุนการศึกษา (One District One Scholarship – ODOS) และโครงการทุนการศึกษาภาคฤดูร้อนSummer Camp “โครงการ 1 อำเภอ 1 ซัมเมอร์แคมป์” ฯลฯ 

Ms. Marina Patrier รองผู้อำนวยการและหัวหน้าฝ่ายการศึกษา สำนักงานยูเนสโก กรุงเทพฯ ได้กล่าวรู้สึกยินดีที่ได้มาพบหารือกับรองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยยูเนสโก โดยได้มีการทำงานอย่างใกล้ชิดกับยูเนสโกและรัฐสมาชิกตลอดระยะเวลา 7 ปี และมีความปลาบปลื้มที่จะได้ร่วมงานกับประเทศไทยเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 โดยเฉพาะเป้าหมายที่ 4 คุณภาพและความเสมอภาคทางการศึกษา และเป้าหมายที่ 17 การเสริมสร้างหุ้นส่วนความร่วมมือ ซึ่งรวมถึงการทำงานร่วมกับสำนักเลขาธิการคณะกรรมการแห่งชาติฯ ในโครงการและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการฝึกอบรมด้านเทคนิคและการอาชีวศึกษา (Technical Vocational Education and Training – TVET) การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) โครงการโรงเรียนแห่งความสุข (Happy Schools Project) 

นอกจากนี้ ยังได้กล่าวถึงความร่วมมือกับประเทศไทยในฐานะประเทศเจ้าภาพร่วมในการจัดการประชุมสัมมนาวิชาการ “The Global Forum on the Ethics of Artificial Intelligence in 2025” ที่จะจัดขึ้นในเดือนมิถุนายน 2568 เพื่อส่งเสริมความเสมอภาคทางการศึกษา โดย สำนักงานยูเนสโก กรุงเทพฯ จะได้มีการติดตามความคืบหน้าและประสานการเชิญผู้อำนวยการใหญ่ในการเดินทางเข้าร่วมการประชุมดังกล่าวต่อไป ในส่วนของการดำเนินโครงการเครือข่ายระดับโลกด้านเมืองแห่งการเรียนรู้ขององค์การยูเนสโก (GNLC) 

รอง ผอ.ยูเนสโก ได้กล่าวชื่นชมกระทรวงศึกษาธิการที่ได้ขับเคลื่อนการดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งส่งผลประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่หลากหลาย เช่น ครู นักเรียน พ่อแม่ ผู้ปกครอง และชุมชนต่าง ๆ เป็นต้น และได้กล่าวว่าสำนักงานยูเนสโก กรุงเทพฯ มีความพร้อมที่จะทำงานร่วมกันกับกระทรวงศึกษาธิการอย่างใกล้ชิด และสนับสนุนแนวคิดของกระทรวงศึกษาธิการในการพัฒนาผลคะแนนสอบ PISA

ซึ่งมีความสำคัญและท้าทายมาก โดยเห็นว่าครูและนักเรียนจะต้องพัฒนาทักษะและความสามารถด้าน AI โดยเฉพาะการบริหารจัดการด้าน AI ซึ่งสำคัญต่อการจัดการเรียนการสอนในอนาคต นอกจากนี้ ยังได้กล่าวชื่นชมประเทศไทยที่ได้ร่วมดำเนินงานกับยูเนสโกในโครงการริเริ่มการศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน สู่ปี ค.ศ. 2030 (ESD-Net 2030 Country Initiative) รวมทั้งการดำเนินโครงการนำร่องการศึกษาสีเขียว(Greening Education Partnership – GEP)   

อนึ่ง นางสาวจิตรลดา จันทร์แหยม รักษาการผู้อำนวยการสำนักความสัมพันธ์ต่างประเทศ สป. ในฐานะรักษาการรองเลขาธิการคณะกรรมการแห่งชาติฯ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยยูเนสโก จะดำเนินการจัดโครงการสัมมนา “Learning, Sharing, and Networking for  the UNESCO GNLC and UCCN Membership” ระยะเวลา 2 วัน ในเดือนกรกฎาคม 2568 เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้ การเสริมสร้างศักยภาพ และการสร้างเครือข่ายผ่านการสัมมนาและการประชุมเชิงปฏิบัติการ โดยกิจกรรมนี้ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากองค์การยูเนสโก ภายใต้โครงการParticipation Programme 2024 – 2025 

ทั้งนี้ ผู้แทนกรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) ได้แจ้งว่า ที่ผ่านมาหน่วยงานได้มีการดำเนินโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกับสำนักงานยูเนสโก กรุงเทพฯ เช่น โครงการเครือข่ายระดับโลกด้านเมืองแห่งการเรียนรู้ขององค์การยูเนสโก (GNLC) โครงการมหาสมุทรที่ยั่งยืน ณ จังหวัดระนอง (Sustaining Our Oceans) โครงการสนับสนุนการศึกษาและการพัฒนาทักษะสำหรับผู้เรียนภาษาแม่และผู้เรียนในพื้นที่ชายขอบในศูนย์เรียนรู้ชุมชนของประเทศไทย ณ จังหวัดอ่างทอง (Supporting Education and Skills Development for Mothers and Marginalized Learners in Community Learning Centres in Thailand) โครงการนำร่องการศึกษาสีเขียว (GEP) ด้านการพัฒนา“Greening Community” การบริจาคแผงโซลาร์เซลล์ โครงการ Learning Coin และการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมทั้งที่จับต้องได้และจับต้องไม่ได้(Safeguarding of Tangible and Intangible Cultural Heritage) เป็นต้น 

กลุ่มความร่วมมือกับองค์การยูเนสโก สต.สป. / ข้อมูล
ธัญญธร อ่อนดีกุล / ภาพ
พบพร ผดุงพล / ข่าว
ธรรมนารี ชดช้อย / กราฟิก

Share This Article

Related Post