แผนการพัฒนาลูกเ
แผนการพัฒนาลูกเสือ...
จังหวัดสตูล – 5 กุมภาพันธ์ 2568 / พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานศึกษาและติดตามการขับเคลื่อนนโยบายการศึกษาตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (ภูเก็ต กระบี่ ตรัง พังงา ระนอง และสตูล) โดยมีนายศักระ กปิลกาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ผู้บริหารหน่วยงานทางการศึกษา ข้าราชการ บุคลากรในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ร่วมให้การต้อนรับ ณ โรงเรียนสตูลวิทยา และระบบ Zoom Meeting
รมว.ศธ. กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่ดี ในการติดตามผลการดำเนินงานของหน่วยงานการศึกษาในภูมิภาค โดยเฉพาะกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพและความน่าสนใจอย่างยิ่ง การพบปะและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในด้านการศึกษากับผู้บริหารระดับจังหวัด ผู้บริหารหน่วยงานทางการศึกษา และผู้บริหารสถานศึกษาทั้งในสังกัดและนอกสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ จะช่วยเสริมสร้างการบูรณาการการทำงานร่วมกัน สร้างความร่วมมือและการสนับสนุนซึ่งกันและกันอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้เรียนทุกช่วงวัยได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ พร้อมพัฒนาให้มีสมรรถนะ มีภูมิคุ้มกัน และสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต
การขับเคลื่อนนโยบายการศึกษาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
การขับเคลื่อนนโยบาย “จังหวัดเป็นหนึ่ง”
รมว.ศธ. กล่าวว่า การสร้างเครือข่ายทางการศึกษาคือส่วนสำคัญในการพัฒนาการศึกษาในแต่ละพื้นที่ให้ประสบผลสำเร็จ โดยเฉพาะการบูรณาการในระดับจังหวัด ผ่านการประสานงานระหว่างหน่วยงานการศึกษาและการแบ่งปันทรัพยากร ทั้งบุคลากร งบประมาณ และเทคโนโลยี เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาให้เกิดประโยชน์สูงสุด มุ่งเน้นให้ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และชุมชน ร่วมมือกันพัฒนาการศึกษาของจังหวัด โดยสนับสนุนการจัดการเรียนการสอนที่มีคุณภาพ การพัฒนาทักษะครูและบุคลากรทางการศึกษา รวมถึงการจัดหาทรัพยากรการเรียนรู้ที่ทันสมัย การสร้างเครือข่ายการศึกษาระหว่างจังหวัดที่ใกล้เคียงกันช่วยให้สามารถแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ รวมถึงร่วมกันพัฒนาหลักสูตรการศึกษาเพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกัน
กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามันถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง และมีความหลากหลายทางด้านสถานที่ท่องเที่ยว รวมถึงธุรกิจด้านการบริการ ดังนั้นจึงต้องมีการพัฒนาและส่งเสริมการศึกษา เน้นการพัฒนาหลักสูตรการศึกษาในสถาบันการศึกษาท้องถิ่น เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ตลาดแรงงานอย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต มีการจัดการศึกษาที่มุ่งเน้นการพัฒนาแรงงานในด้านการท่องเที่ยว จะช่วยสร้างบุคลากรที่มีความรู้และทักษะที่ตรงกับความต้องการของอุตสาหกรรม รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ บูรณาการการกับงานกับหน่วยงานในพื้นที่ ท้องถิ่น ชุมชน เพื่อการพัฒนาไปพร้อมกัน
การขับเคลื่อนการยกระดับคุณภาพการศึกษา PISA
รมว.ศธ. กล่าวว่า การขับเคลื่อนในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ขอให้ทุกภาคส่วนสร้างความตระหนักร่วมมือ ผลักดัน สนับสนุน และพัฒนาร่วมกันในการดำเนินงาน เมื่อวันอาทิตย์และวันจันทร์ที่ผ่านมามีการสอบ O-NET ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2567 ซึ่งผลสอบจะเป็นเครื่องมือช่วยสะท้อนคุณภาพการจัดการเรียนการสอนของสถานศึกษา การสะท้อนความสำเร็จของการยกระดับคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐาน และการเตรียมความพร้อมนักเรียนในการสอบ PISA 2025 รวมถึงการสอบสำหรับนักเรียน นักศึกษาในทุกระดับ
เชื่อมั่นว่าเมื่อผู้เรียนมีความสุขและมีความพึงพอใจในการเรียน จะสามารถส่งผลต่อการเรียนที่ดี และเมื่อผลการศึกษาศึกษาดีจะส่งผลต่อคุณภาพการศึกษาของประเทศ ดังนั้นจึงอยากให้ผู้บริหารการศึกษาทุกระดับโดยเฉพาะผู้บริหารส่วนภูมิภาคที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพการศึกษาในพื้นที่ต่าง ๆ ควรมีการวางแผนและดำเนินการอย่างเป็นระบบ โดยใช้ผลการประเมิน O-NET เป็นเครื่องมือในการประเมินและปรับปรุงกระบวนการเรียนการสอนให้มีคุณภาพที่เหมาะสมกับความต้องการของนักเรียนในแต่ละพื้นที่ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ที่ครอบคลุมทุกมิติ
การติดตามและค้นหากลุ่มเด็กที่หลุดออกจากระบบการศึกษา Zero Dropout
รมว.ศธ. กล่าวว่า จากผลการดำเนินงานพบว่ากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามันมีผลการติดตามเด็กนอกระบบการศึกษามีการติดตามได้ 100% เกือบทุกจังหวัด ต้องมีการบูรณาการร่วมกันระหว่างกลุ่มจังหวัดฯ และจังหวัดใกล้เคียง เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ แนวปฏิบัติและการใช้บุคลากรร่วมกัน ในการค้นหาเด็กที่หลุดจากระบบการศึกษา โดยเฉพาะเด็กสัญชาติไทย เพื่อนำเข้าสู่ระบบการศึกษาขั้นพื้นฐาน
โดยยึด 4 แนวทางหลักคือ “ป้องกัน” ไม่ให้เด็กออกนอกระบบการศึกษา เมื่อเด็กออกนอกระบบการศึกษาต้องมีการ “แก้ไข” เพื่อตรวจสอบและติดตามนำเด็กที่ออกนอกระบบกลับเข้าสู่ระบบการศึกษา มีแนวทางในการ “ส่งต่อ” ไปยังหน่วยงานทางการศึกษาในพื้นที่ เพื่อให้เด็กเข้าสู่ระบบการศึกษาในรูปแบบที่เหมาะสม และวางแผนในการ “ติดตามดูแล” ต้องมีมาตราการในการป้องกันไม่ให้เด็กต้องหลุดออกจากระบบการศึกษา ส่งเสริมการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับความถนัดและความสนใจของเด็ก รวมถึงการสนับสนุนทรัพยากรร่วมกัน เพราะเด็กไทยทุกคนต้องได้รับการศึกษาภาคบังคับ
การดำเนินงานตามนโยบายฯ
รมว.ศธ. กล่าวว่า ในการลงพื้นที่ติดตามการขับเคลื่อนนโยบายฯ ณ กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ต้องเน้นย้ำและฝากแนวทางในการดำเนินงาน อาทิ ระบบจับคู่ครูคืนถิ่น (Teacher Rotation System : TRS) ควรเพิ่มการประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้ให้ครูและสถานศึกษาต่าง ๆ ทราบ เกี่ยวกับระบบฯ เพื่อให้ครูคืนถิ่นสามารถกลับไปทำงานในพื้นที่ของตนได้ตรงกับความต้องการ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนครูในบางพื้นที่
ในส่วนของการแก้ไขปัญหาหนี้สินครู ควรเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่องการบริหารการเงินส่วนบุคคลเพื่อให้ครูสามารถบริหารจัดการเงินของตนเองได้ และสามารถลดปัญหาหนี้สินที่เกิดขึ้น การยกเลิกการให้ครูเวร ควรมีการประสานงานกับตำรวจในพื้นที่เพื่อร่วมมือดูแลรักษาความปลอดภัย การจัดหานักการภารโรง ควรให้ความสำคัญและให้คุณค่ากับนักการภารโรงในการสนับสนุนการทำงานในโรงเรียน ถือเป็นแนวทางในการลดภาระและพัฒนาคุณภาพการศึกษาที่จะช่วยให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
โครงการ “อาชีวะพี่ช่วยน้อง”
รมว.ศธ. กล่าวว่า ถือเป็นมิติที่ดีในการช่วยพัฒนาคุณภาพผู้เรียน โดยได้รับการตอบรับอย่างดีจากสถานศึกษาและเยาวชนในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามันได้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และช่วยเหลือระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้องในสถาบันอาชีวะ รยมทั้งสถานศึกษาสังกัดอื่นที่ต้องการช่วยเหลือ ซึ่งส่งผลให้ผู้เรียนได้รับทักษะและประสบการณ์ที่สามารถนำไปใช้ในการประกอบอาชีพได้จริง นอกจากนี้ยังมีการขยายผลโครงการอย่างต่อเนื่อง ผ่านกิจกรรมแลกเปลี่ยนทักษะทางวิชาชีพและการส่งเสริมการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงของรุ่นพี่ ซึ่งช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและพัฒนาความสามารถของนักเรียนในสายอาชีพ
การบูรณาการการจัดการศึกษาในภูมิภาค
รมว.ศธ. กล่าวว่า สำหรับการขับเคลื่อนการบริหารการจัดการศึกษาในภูมิภาค ตามนโยบายการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ เป็นการปฏิรูปการศึกษาเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาในภูมิภาค โดยมีคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค (คปภ.) เป็นเครื่องมือสำคัญในการกำหนดทิศทางการจัดการศึกษาในภูมิภาคหรือจังหวัด และมีกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนที่ระดับพื้นที่ ได้แก่ สำนักงานศึกษาธิการภาคและสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินงานและประสานความร่วมมือในพื้นที่ต่าง ๆ เน้นการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาทุกระดับ ทุกประเภท เพื่อให้ทุกนักเรียนและนักศึกษาได้มีโอกาสเข้าถึงการศึกษาไทยอย่างทั่วถึง ตามนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” มีกลไกการขับเคลื่อนโดยคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ผ่านการบูรณาการทรัพยากรและการร่วมมือกันของทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานการศึกษาในพื้นที่ ภาคประชาสังคม และชุมชน เพื่อให้การศึกษามีคุณภาพและตอบสนองความต้องการของนักเรียนในแต่ละท้องถิ่น
นอกจากนี้ รมว.ศธ. ยังได้เน้นย้ำแนวทางป้องกันบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าในสถานศึกษา ซึ่ง ศธ. ได้หารือร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ในการตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้า และจัดทำโครงการที่เหมาะสมกับสถานศึกษา รวมถึงการจัดทำธรรมนูญสุขภาพของนักเรียน ซึ่งจะเป็นกรอบปฏิบัติที่สถานศึกษาสามารถนำไปใช้ในการออกแบบกฎระเบียบของตัวเอง ในขณะเดียวกัน ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขได้ชี้ให้เห็นถึงปัญหาสุขภาพจิตของเด็กและวัยรุ่นที่มีแนวโน้มสูงขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องการใช้สารเสพติด ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้ง่ายในปัจจุบันและอาจเกิดจากพฤติกรรมเลียนแบบจากกลุ่มเพื่อนหรือสังคม ซึ่งที่ผ่านมาได้สั่งการให้ทุกสถานศึกษาในสังกัดสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับภัยจากบุหรี่ไฟฟ้า โดยห้ามสูบในสถานศึกษาและกำหนดให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบเดียวกันกับการห้ามสูบบุหรี่ธรรมดา ผู้บริหารและคณะครูต้องร่วมกันตรวจตราภายในสถานศึกษาอย่างเคร่งครัด เพื่อผลักดันนโยบายการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า และปกป้องคุ้มครองเด็กและเยาวชนให้สามารถลดอัตราการเสพติดได้อย่างเป็นรูปธรรม
“กระทรวงศึกษาธิการยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ด้วยการ “ปฏิวัติการศึกษา แก้ปัญหาประเทศ“ เพื่อสร้างการศึกษาที่มุ่งสู่ความเป็นเลิศและเสริมสร้างความมั่นคงของชีวิต โดยเน้นนโยบายลดภาระครูและบุคลากรทางการศึกษา รวมถึงลดภาระของนักเรียนและผู้ปกครอง โดยเฉพาะในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ซึ่งถือเป็นพื้นที่สำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจของประเทศ การลงพื้นที่ในครั้งนี้จึงเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานที่ช่วยให้รับรู้รับทราบถึงการพัฒนาการศึกษาในแต่ละภูมิภาคได้อย่างชัดเจน และสามารถปรับปรุงและพัฒนานโยบายให้สอดคล้องกับข้อเสนอแนะและความต้องการจากทุกภาคส่วนได้ดียิ่งขึ้น โดยมีเป้าหมายในการยกระดับการศึกษาให้มีคุณภาพ เพื่อการศึกษาที่เท่าเทียม พัฒนาผู้เรียนทุกช่วงวัยให้ “ฉลาดรู้ ฉลาดคิด ฉลาดทำ” ตามนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” อย่างยั่งยืนต่อไป”
สำหรับการลงพื้นที่ฯ ในครั้งนี้ มีผู้บริหาร ศธ. เข้าร่วม อาทิ นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัด ศธ., ว่าที่ ร.ต. ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการ กพฐ., นายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการ กอศ., นายประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการ สกศ., นายธนากร ดอนเหนือ อธิบดี สกร., นายมณฑล ภาคสุวรรณ์ เลขาธิการ กช., นางอมลวรรณ วีระธรรมโม เลขาธิการ คส. และนายชูสิน วรเดช ผตร.ศธ.
อานนท์ วิชานนท์ / ข่าว
ณัฐพล สุกไทย / ภาพ
ศุภณัฐ วัฒนมงคลลาภ / วีดิทัศน์