วันนี้ (17 มกราคม 2568) นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยเสียงสะท้อนผู้เรียน หลังรับข้อเสนอจากคณะสภานักเรียน และโพลวันเด็กแห่งชาติ ปี 2568 ภูมิใจ Mindset พลังบวกของนักเรียนไทย พร้อมยืนยันการดำเนินการตามแนวทางของ พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่ให้ความสำคัญกับผู้เรียนที่เป็นเด็กและเยาวชน เร่งพัฒนาปรับเปลี่ยนสู่ความเปลี่ยนแปลงให้ขึ้นจริงในสังคมอย่างเป็นรูปธรรม

โฆษก ศธ. กล่าวว่า แม้จะผ่านพ้นงานวันเด็กแห่งชาติในปีนี้มาเกือบสัปดาห์แล้ว นอกจากกิจกรรมสร้างสรรค์ที่จัดขึ้นเพื่อเด็กและเยาวชนแล้ว สิ่งที่สะท้อนถึงความต้องการของผู้เรียนทั้งประเทศได้อีกส่วนหนึ่งคือ ข้อเสนอจากคณะสภานักเรียน รวมถึงผลสำรวจหรือโพลต่าง ๆ ก็บ่งบอกได้ถึงความต้องการของผู้เรียนได้ดีเช่นกัน ซึ่งมีผลออกมาว่า เด็กไทยอยากเห็นโรงเรียนและการเรียนที่สนุกขึ้น รองลงมาคือเทคโนโลยีพัฒนาเจริญก้าวหน้า ส่วนของขวัญที่อยากได้จากรัฐบาล คือ ทุนการศึกษาหรือเงินช่วยเหลือ รวมถึงแท็บเล็ตหรือคอมพิวเตอร์สำหรับเรียน และนอกจากคุณพ่อคุณแม่แล้ว คนที่เด็กไทยชื่นชมและเป็นไอดอลคือ ลิซ่า ลลิษา รองลงมาคือคุณครู ซึ่งติดโผแรงบันดาลใจของเด็กในทุกปี

ส่วนน้องคณะสภานักเรียน ผู้เป็นตัวแทนกระบอกเสียงให้เพื่อนนักเรียนทั่วประเทศ ได้เข้าพบนายกรัฐมนตรีเพื่อยื่นข้อเสนอถึงความต้องการด้านการศึกษา 3 เรื่อง ทั้งการส่งเสริมค่านิยมหลัก “รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์” ในกลุ่มเยาวชนไทย รวมถึงเรื่องความรักโรงเรียน รักเพื่อน และน้อง สร้างโรงเรียนแห่งความสุข ร่วมป้องกันให้ทุกคนห่างไกลจากบุหรี่ไฟฟ้า รู้เท่าทันภัยออนไลน์ และ ZERO DROPOUT ติดตามและค้นหาเด็กที่ตกหล่นให้กลับเข้ามาเรียนในระบบ และหากย้อนไปในวันเด็กแห่งชาติปีที่แล้ว (ปี 2567) คณะสภานักเรียนก็ได้มีข้อเสนอเกี่ยวกับการรู้จักประวัติศาสตร์ในท้องถิ่นของตนเองอย่างลึกซึ้ง รวมถึงการรู้จักมารยาทการใช้โทรศัพท์ในห้องเรียน และการส่งเสริมแนวทางการป้องกันการบูลลี่ในสถานศึกษา ซึ่งสิ่งที่เห็นเด่นชัดถึงความเปลี่ยนแปลงที่ ศธ.นำข้อเสนอมาดำเนินการในระยะ 1 ปี ที่ผ่านมาจนเกิดเป็นกระแสสังคมคือ การปรับเครื่องแบบลูกเสือ และสุขาดี มีความสุข รวมถึงการเร่งรัดการพัฒนาโปรแกรมส่งเสริมสุขภาพจิตและร่างกายของนักเรียนอย่างจริงจัง ที่เป็นการยืนยันถึงความใส่ใจในรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับประสบการณ์ของนักเรียนในโรงเรียนให้เหมาะสมในยุคปัจจุบัน

“เสียงเหล่านี้คือ เสียงอันทรงพลังในการเปลี่ยนแปลงทิศทางระบบการศึกษา ถือเป็นการเปิดศักราชใหม่ ที่เป็นจุดปรับเปลี่ยนความร่วมมือกับผู้เรียนในการพัฒนาการศึกษา และมุ่งเน้นการสร้างความสุขในการเรียนรู้ ที่ถูกกลั่นกรองถึงความต้องการของนักเรียนอย่างแท้จริง จากการสะท้อนมุมมองและข้อเสนอแนะการปฏิรูปการศึกษา และ ศธ.ได้ให้ความสำคัญอย่างจริงจัง ทั้งในส่วนของข้อเสนอและผลสำรวจดังกล่าว ตอบโจทย์ความต้องการของนักเรียนในยุคดิจิทัล ทั้งในเรื่องของการปรับปรุงหลักสูตร การเพิ่มโอกาสการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ และการส่งเสริมทักษะที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตจริง เพื่อนำมาสู่การปรับเปลี่ยนสู่การพลิกโฉมการศึกษาไทย

ซึ่งท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ) ให้ความสำคัญกับการรับฟังเสียงจากคณะสภานักเรียน และทุกข้อเสนอที่ได้รับจากเด็ก ๆ เพราะพวกเขาคือ ผู้ที่มีสิทธิในการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับระบบการศึกษาที่พวกเขาจะได้รับ การปรับเปลี่ยนที่เกิดขึ้น เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงที่เราตั้งใจให้เกิดขึ้นจริงในระบบการศึกษาไทย ทั้งในมิติปัจจุบันและอนาคต การรับฟังความคิดเห็นจากนักเรียนเอง จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การปฏิรูปการศึกษามีความสอดคล้องกับความต้องการที่แท้จริง เป็นโอกาสในการพลิกโฉมการศึกษาไทย ให้มีความทันสมัยและเข้ากับสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ รู้สึกภูมิใจที่ได้เห็น Mindset นักเรียนไทยในเชิงบวกมากขึ้น และขอยืนยันว่าเราจะเดินหน้าพลิกโฉมการศึกษาไทยต่อไปในปีนี้ ให้ทุกเสียงของนักเรียนที่สะท้อนมาได้รับการพิจารณาอย่างจริงจังในทุกมิติ” โฆษก ศธ. กล่าว

นวรัตน์ รามสูต : เรียบเรียง

ทิพย์สุดา ศรีษะแก้ว : ถ่ายภาพ/กราฟิก

กลุ่มประชาสัมพันธ์ สร.: รายงาน

17/1/2568

Share This Article

Related Post