จำนวนครู และบุค
The post จำนวนครู และบุคล...
26 ธันวาคม 2567 / พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค (คปภ.) ครั้งที่ 9/2567 พร้อมด้วยนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศธ. โดยมีนายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัด ศธ. และนายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการ กอศ. นายประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการ สกศ. นายธนู ขวัญเดช รองปลัด ศธ. นายธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการ กพฐ. ตลอดจนคณะกรรมการฯ เข้าร่วม ณ ห้องประชุมราชวัลลภ อาคารราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ
รมว.ศธ. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค ครั้งที่ 9/2567 มีมติเห็นชอบการปรับแก้ไของค์ประกอบของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการใน กศจ.กทม. ซึ่งจากการประชุมคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดกรุงเทพมหานคร ที่ประชุมได้พิจารณาขอความเห็นชอบรายชื่อกรรมการในคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) เสนอเป็นอนุกรรมการผู้แทนขับเคลื่อนนโยบายและจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ
โดยที่ประชุมมีมติปรับแก้ไของค์ประกอบของคณะอนุกรรมการ ในส่วนของตำแหน่งประธานอนุกรรมการ ซึ่งได้กำหนดให้ “กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน กศจ. จำนวนหนึ่งคน เป็นประธานอนุกรรมการ” เนื่องจากกรณี กศจ. กรุงเทพมหานคร ไม่มีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ โดยมี ศธจ.กรุงเทพมหานคร เป็นอนุกรรมการและเลขานุการ ซึ่งต่อมาในการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค ครั้งที่ 7/2567 ที่ประชุมได้พิจารณาองค์ประกอบของคณะอนุกรรมการฯ โดยที่ประชุมมอบหมายฝ่ายเลขานุการดำเนินการปรับแก้ไของค์ประกอบดังกล่าว
นอกจากนั้นยังเห็นชอบการมอบหมายผู้แทนจาก สพฐ. เป็นกรรมการใน กศจ. เนื่องด้วยมีผู้แทน สพฐ. ที่เป็นกรรมการใน กศจ. บางรายเกษียณอายุราชการ หรือได้ย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอื่นและพ้นตำแหน่งตามวาระ ดังนั้นเพื่อให้การจัดการศึกษา การบริหารงานบุคคลที่เกี่ยวข้องในส่วนภูมิภาคเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงเห็นควรคัดเลือกแต่งตั้งผู้แทนจาก สพฐ. (ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษา) ในกรรมการ กศจ.คนใหม่ ให้สอดคล้องกับบริบทเชิงพื้นที่ เพื่อให้การจัดการศึกษาในภูมิภาคมีความคล่องตัวและประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงเป็นการเชื่อมโยงการทำงานระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ในกระบวนการขับเคลื่อนการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในพื้นที่
รวมทั้งเห็นชอบ (ร่าง) ประกาศ คปภ. “ทิศทางการดำเนินงานของกระทรวงศึกษาธิการในระดับภูมิภาคและระดับจังหวัด พ.ศ. ….” จากประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง นโยบายการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 – 2569 ลงวันที่ 17 ตุลาคม 2567 เพื่อให้การขับเคลื่อนนโยบายการศึกษาไปสู่การปฏิบัติเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพเกิดประสิทธิผล เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้เรียนและประชาชน ตนจึงประกาศนโยบายดังกล่าวโดยมุ่งมั่นสานต่อนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อผู้เรียนเป็นที่ประจักษ์ ภายใต้หลักการ “การศึกษาเพื่อความเป็นเลิศ และการศึกษาเพื่อความมั่นคงของชีวิต”
ใช้แนวทางการทำงาน “จับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน” มุ่งสร้าง “การศึกษาเท่าเทียม” ผ่านเครือข่ายการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และต่อยอดการพัฒนาคุณภาพการศึกษาทุกระดับให้ทันสมัยได้มาตรฐานสากล ภายใต้แนวคิด “ปฏิวัติการศึกษา แก้ปัญหาประเทศ” เพื่อพัฒนาคนไทยทุกคนในทุกช่วงวัย ให้ “ฉลาดรู้ ฉลาดคิด ฉลาดทำ” มีศักยภาพและความพร้อมสนับสนับสนุนการพัฒนาประเทศให้ “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” เพื่อเป็นแนวทางให้ส่วนราชการในสังกัดและองค์กรในกำกับกระทรวงศึกษาธิการ นำไปใช้ในการขับเคลื่อนนโยบาย
รมว.ศธ. กล่าวด้วยว่า การขับเคลื่อนนโยบายการดำเนินงานของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาคนั้น ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะหน่วยงานในสังกัดระดับภูมิภาคและจังหวัด ที่จะต้องมีการปรับตัวให้สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ การขับเคลื่อนนโยบายไม่เพียงแต่จะมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพการศึกษาในระดับพื้นที่เท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญในการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างนโยบายระดับชาติ ระดับภูมิภาค และจังหวัด ซึ่งจะทำให้การขับเคลื่อนนโยบายการศึกษามีความต่อเนื่องและเป็นระบบ โดยมีกรอบแนวทางที่ชัดเจนและสามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การกำหนดกรอบแนวทางในการขับเคลื่อนนโยบายการศึกษาภูมิภาคและจังหวัด จะช่วยให้ทุกหน่วยงานในสังกัด ศธ. สามารถปฏิบัติตามนโยบายการศึกษาที่กำหนดไว้ได้ และจะช่วยยกระดับการศึกษาให้เกิดผลที่เป็นรูปธรรมในทุกมิติ ทั้งในด้านคุณภาพการศึกษา การเข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียม และการพัฒนาทักษะที่เหมาะสมกับการทำงาน การจัดการศึกษาต้องสะท้อนถึงนโยบายที่มุ่งพัฒนาให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาไปในทิศทางที่เหมาะสมกับบริบทของท้องถิ่นและความสามารถของแต่ละบุคคล สิ่งสำคัญที่สุดคือ “ความเป็นหนึ่งเดียวกัน” ในระดับภูมิภาคและจังหวัด ซึ่งจะทำให้การศึกษาทั่วประเทศสามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้สำนักนิติการ (สน.สป.) ได้จัดทำ (ร่าง) ประกาศ คปภ. เรื่อง ทิศทางการดำเนินงานของกระทรวงศึกษาธิการในระดับภูมิภาคและระดับจังหวัด พ.ศ. …. เพื่อให้ส่วนราชการในสังกัดและในกำกับ รวมถึงผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารเขตพื้นที่การศึกษา ผู้บริการการศึกษา ตลอดจนผู้ปฏิบัติงานในตำแหน่งต่าง ๆ ในหน่วยงานของกระทรวงศึกษาธิการในระดับภูมิภาคหรือจังหวัด ตระหนักและให้ความสำคัญในการดำเนินการตามนโยบายการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ
โดยนำทิศทางการดำเนินงานไปเป็นกรอบแนวทางในการจัดการศึกษาและการดำเนินงานขับเคลื่อนนโยบายการศึกษาไปสู่การปฏิบัติในระดับภูมิภาคและระดับจังหวัดให้เกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และประโยชน์สูงสุดต่อผู้เรียนและประชาชนโดยมีทิศทางการดำเนินงานของหน่วยงานในกระทรวงศึกษาธิการในระดับภูมิภาคและระดับจังหวัดเพื่อให้เป็นไปตามแนวทางการขับเคลื่อนนโยบายการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งจะประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
อานนท์ วิชานนท์ / ข่าว-กราฟิก
ณัฐพล สุกไทย / ภาพ