5 ธันวาคม 2567 – พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือ (MOU) “โรงเรียนร่วมพัฒนา” (Partnership School Project) ร่วมกับนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยมีนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ ศธ. นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัด ศธ. นายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการ กอศ. รวมถึงผู้บริหารของ ศธ. ผู้แทนจากภาคเอกชนและภาคประชาสังคม ร่วมพิธีฯ ณ หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ

รมว.ศธ. กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีในการลงนามโครงการ “โรงเรียนร่วมพัฒนา” (Partnership School Project) ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2561 ขอขอบคุณหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กลุ่มผู้ใหญ่ใจดีในการดำเนินงาน อาจารย์มีชัย วีระไวทยะ ผู้ก่อตั้งและประธานมูลนิธิมีชัย วีระไวทยะ ผู้ริเริ่มตั้งต้นโครงการฯ ที่ให้การสนับสนุนตลอดมา

เชื่อมั่นว่าการลงนามร่วมกันครั้งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นที่ช่วยยกระดับคุณภาพการศึกษาไทยให้ทัดเทียมกับนานาชาติ เด็กไทยจะได้รับโอกาสที่เท่าเทียมในการพัฒนาตนเอง และมีความพร้อมที่จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ โรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการนี้จะเป็นต้นแบบของการบริหารจัดการที่มีคุณภาพ และในอนาคตจะขยายผลการดำเนินการให้ครอบคลุมครบทุกโรงเรียนคุณภาพ จึงขอเชิญชวนผู้ประกอบการทุกรายร่วมกันพัฒนาการศึกษาไทย เพื่อผลิตทรัพยากรที่มีคุณภาพให้ตอบรับกับกระแสสังคม ภาคธุรกิจ และภาคอุตสาหกรรม

ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขอขอบคุณ รมว.ศธ. ที่ให้ความสำคัญกับการศึกษา ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากต่อภาคเศรษฐกิจ การศึกษาเพียงอย่างเดียวที่จะสร้างความเสมอภาคและเข้าถึงทุกหน่วยงาน ถือเป็นการเปิดโอกาสที่ดีให้แก่เด็กไทย ฉะนั้น หอการค้าไทยพร้อมที่จะสนับสนุนทั้งด้านความรู้และเทคโนโลยี ให้นักเรียน นักศึกษา และคุณครู เพื่อสอดรับต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกต่อไป

CEO CPF กล่าวว่า วันนี้ผมรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมสนับสนุนกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาสังคมประเทศไทย ซึ่งในเครือ CPF ให้ความสำคัญในการพัฒนาบุคลากร จึงทำให้เห็นว่า การศึกษาเป็นสิ่งที่สำคัญต่อการพัฒนาบุคลากร เป็นรากฐานของการพัฒนาสังคมที่ดีด้วย

ผู้ก่อตั้งและประธานมูลนิธิมีชัย กล่าวว่า ขอขอบคุณท่านรัฐมนตรีที่ให้ความสำคัญด้านการศึกษาของประเทศไทย และอยากเชิญชวนภาคธุรกิจและเอกชน ร่วมกันสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของไทย เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้เรียนและบุคลากรทางการศึกษา อย่างเท่าเทียมทุกพื้นที่

สำหรับการขับเคลื่อนโครงการ “โรงเรียนร่วมพัฒนา” (Partnership School Project) ในครั้งนี้ เป็นการร่วมมือกันในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา นำนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทุนมนุษย์ ที่เป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศ โดยเร่งผลักดันให้เกิดการพัฒนาคนไทยทุกช่วงวัยอย่างเต็มกำลังและความสามารถ ส่งเสริมการเติบโตอย่างมีคุณภาพของเด็กทุกคนอย่างเท่าเทียม พัฒนาระบบการศึกษาที่ยืดหยุ่นทั้งในระบบ นอกระบบ ตามอัธยาศัย และการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ทันสมัยเข้ามาสนับสนุนตอบโจทย์ศักยภาพของผู้เรียน ลดภาระและลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ

ทั้งยังเน้นการสอนทักษะที่ใช้ประโยชน์ได้ในชีวิตจริงเพื่อการสร้างรายได้ (Learn to Earn) ส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือทุกภาคส่วนในการจัดการศึกษาทุกระดับ รวมทั้งค้นหาและช่วยเหลือเด็กและเยาวชนที่หลุดจากระบบการศึกษา อีกทั้งยังส่งเสริมการปฏิรูประบบอาชีวศึกษาเพื่อตอบสนองต่อความต้องการแรงงานในอนาคตและรองรับการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning)

นอกจากนี้ เป็นการนำนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” มาพัฒนาสู่การศึกษาเพื่อความเป็นเลิศ และการศึกษาเพื่อความมั่นคงของชีวิต โดยใช้แนวทางการทำงาน “จับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน” ต่อยอดการพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้ทันสมัย ได้มาตรฐานสากล ภายใต้แนวคิด “ปฏิวัติการศึกษา แก้ปัญหาประเทศ” ให้คนทุกช่วงวัย “ฉลาดรู้ ฉลาดคิด ฉลาดทำ” มีศักยภาพและความพร้อมสนับสนุนการพัฒนาประเทศ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้เรียนและประชาชน ตามความเหมาะสมและบริบทเชิงพื้นที่ของแต่ละโรงเรียน ต่อไป

ธรรมนารี ชดช้อย / ข่าว , กราฟิก
ศศิวัฒน์ แป้นคุ้มญาติ / ภาพ

The post ศธ. MOU หอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เดินหน้า “โรงเรียนร่วมพัฒนา” ยกระดับการศึกษา เด็กไทยได้รับโอกาส เท่าเทียม ทุกพื้นที่ appeared first on กระทรวงศึกษาธิการ.

Share This Article

Related Post