ราชกิจจานุเบกษา
ราชกิจจานุเบกษา (5 เ...
29 สิงหาคม 2567 / พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค (คปภ.) ครั้งที่ 6/2567 พร้อมด้วยนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศธ. โดยมีนายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัด ศธ. นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ ปลัด อว. นายอรรถพล สังขวาสี เลขาธิการ สกศ. นายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการ กอศ. ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการ กพฐ. ตลอดจนคณะกรรมการฯ เข้าร่วม ณ ห้องประชุมราชวัลลภ และผ่านระบบ e-Meeting
รมว.ศธ. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค ครั้งที่ 6/2567 มีมติที่สำคัญ ดังนี้
เห็นชอบแนวทางการสรรหาคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน กศจ. พ.ศ. 2567
รมว.ศธ. กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบ การกำหนดระยะเวลาการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ทั้ง 76 จังหวัด ยกเว้นกรุงเทพมหานคร เป็นไปตามมติที่ประชุม คปภ. ครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2567 เห็นชอบให้ดำเนินการแก้ไขประกาศ คปภ. เรื่องการได้มาและการพ้นจากตำแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน กศจ. พ.ศ. 2565
ให้สอดคล้องกับบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “การผลิตทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพ สร้างจิตสำนึกความเป็นไทย” เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2566 ระหว่าง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ในการส่งเสริมให้ประชาชนทุกช่วงวัย เข้าใจและภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ของชาติไทย มีรากฐานจิตสำนึกรักความเป็นไทย มีคุณธรรมจริยธรรม ค่านิยม และหลักคิดที่ถูกต้องต่อชาติบ้านเมือง และสถาบันสำคัญของชาติ เป็นพลเมืองที่ดี
โดยมีขั้นตอนการดำเนินงานเริ่มจากการรับสมัครหรือการเสนอชื่อ ตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2567 เป็นต้นไป จากนั้นตรวจสอบคุณสมบัติ, กศจ. พิจารณาสรรหาผู้สมควรได้รับแต่งตั้ง, สำนักงาน ศธจ. เสนอรายชื่อผู้ที่ได้รับการสรรหามายัง สป.ศธ. จนถึงขั้นตอนสุดท้าย สป.ศธ. เสนอรายชื่อแก่คณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาคให้ความเห็นชอบแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน กศจ. ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 เพื่อทดแทนผู้ทรงคุณวุฒิชุดสุดท้ายที่จะหมดวาระลงในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568
เห็นชอบแนวทางการสรรหาผู้ทรงคุณวุฒิในคณะอนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัด พ.ศ. 2567
รมว.ศธ. กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบ การกำหนดระยะเวลาการสรรหาผู้ทรงคุณวุฒิในคณะอนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัด พร้อมกันทั้ง 76 จังหวัด ยกเว้นกรุงเทพมหานคร สืบเนื่องจากในการประชุม คปภ. ครั้งที่ 3/2567 เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2567 มีคำวินิจฉัยให้แก้ไขประกาศฯ เรื่องการได้มาและการพ้นจากตำแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด พ.ศ. 2565 เพื่อกำหนดคุณสมบัติการได้มาและไม่มีลักษณะต้องห้ามของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 19/2560 ลงวันที่ 3 เมษายน 2560
“ต้องเป็นผู้มีความประพฤติและค่านิยมสร้างสรรค์ที่จำเป็นสำหรับผู้มีสิทธิเข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ใน กศจ. โดยพิจารณาจากการมีพฤติกรรมที่เหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่และภารกิจของส่วนราชการ มุ่งประโยชน์ของส่วนรวม มีความซื่อสัตย์ สามารถครองตน ครองคน ครองงาน โดยธรรม กล้าคิด กล้าทำ กล้านำ กล้าเปลี่ยน มีความโปร่งใส เข้าใจและภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ของชาติไทย มีจิตสำนึก รักความเป็นไทย มีคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมและหลักคิดที่ถูกต้องต่อชาติบ้านเมือง และสถาบันสำคัญของชาติ เป็นพลเมืองที่ดี”
ในการนี้จึงต้องมีการสรรหาผู้ทรงคุณวุฒิในคณะอนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัดชุดใหม่ที่มีคุณสมบัติตามคำสั่ง คสช. ทดแทนชุดเดิม โดยมีขั้นตอนการดำเนินงานเริ่มจากการรับสมัครหรือการเสนอชื่อตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2568 จนถึงสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดแจ้งสำเนาคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ คปภ. มายัง สป.ศธ. ภายในวันที่ 24 มีนาคม 2568
รับทราบการหารือการปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ
รมว.ศธ. กล่าวว่า ที่ประชุมรับทราบผลการหารือระหว่างกระทรวงศึกษาธิการ กับ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา โดย ศธ. ได้มีหนังสือ ลงวันที่ 15 กรกฎาคม 2567 หารือแนวทางการปฏิบัติตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 19/2560 เรื่อง การปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ 3 เมษายน 2560 ไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในการนี้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้มีหนังสือ ด่วนที่สุด ลงวันที่ 22 สิงหาคม 2567 แจ้งมายังสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการว่า “ไม่อาจรับข้อหารือดังกล่าวไว้พิจารณาได้เนื่องจากข้อหารือของกระทรวงศึกษาธิการดังกล่าวยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค ซึ่งมีหน้าที่และอำนาจในการวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติดังกล่าวได้พิจารณาแล้วและมีความเห็นที่แตกต่างหรือมีการโต้แย้งจนเป็นเหตุให้ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายได้โดยถูกต้องอย่างไร”
อานนท์ วิชานนท์ / ข่าว
พีรณัฐ ยุชยะทัต/ ภาพ
The post เสมา 1 หารือบอร์ด คปภ. เร่งสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ขับเคลื่อนปฏิรูปการศึกษาภูมิภาคต่อเนื่อง appeared first on กระทรวงศึกษาธิการ.