“รมช.สุรศักดิ์”
เมื่อวันเสาร์ ที่ 8 ...
2 พฤษภาคม 2567 / พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมประสานภารกิจ ครั้งที่ 16/2567 ณ ห้องประชุมราชวัลลภ และผ่านระบบ e-Meeting
ภายหลังการประชุม รมว.ศธ. พร้อมด้วยนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศธ. ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการ กพฐ. และนายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการ กอศ. แถลงข่าว ณ ห้องแถลงข่าว สรุปดังนี้
การขับเคลื่อนการยกระดับคุณภาพมาตรฐานการศึกษา PISA
รมว.ศธ. กล่าวว่า การขับเคลื่อนการยกระดับคุณภาพมาตรฐานการศึกษา PISA ตามที่ สพฐ. ร่วมกับ สสวท. ในการขับเคลื่อนการพัฒนาสมรรถนะด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ตามแนวทาง PISA นั้น ขอให้ทุกหน่วยงานให้ความร่วมมือและสนับสนุนการขับเคลื่อนไปพร้อม ๆ กัน โดยเฉพาะผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และผู้อำนวยการโรงเรียน ให้ความสำคัญในเรื่องของการใช้ระบบออนไลน์ข้อสอบ PISA ในสถานศึกษา การเข้าร่วมการฝึกอบรมวิทยากรแกนนำและการเตรียมความพร้อมการเป็นวิทยากรพี่เลี้ยง ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (ศูนย์วิทยาศาสตร์พลังสิบ) การเข้ารับอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาศักยภาพการจัดการเรียนรู้ในการส่งเสริมสมรรถนะและความฉลาดรู้ของผู้เรียนตามแนวทางการประเมินระดับนานาชาติ หรือ PISA สำหรับวิทยากรแกนนำ ระดับเขตพื้นที่การศึกษาทั้งประถมศึกษาและมัธยมศึกษา และการอบรมเรียนรู้ด้วยตนเอง (Self Paced Learning) ผ่านระบบออนไลน์ เพื่อประโยชน์ในการขับเคลื่อนนโยบายในการขับเคลื่อนเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา PISA ของกระทรวงศึกษาธิการต่อไป
การติดตามผลการเบิกจ่ายงบประมาณ 2567
รมว.ศธ. กล่าวว่า การใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ภาพรวมของกระทรวงศึกษาธิการ ขอให้ผู้บริหารทุกหน่วยงาน วางแผนการดำเนินงาน กำกับ ดูแลการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายลงทุนของทุกหน่วยงานให้มีประสิทธิภาพ มีการกำหนดเป้าหมายการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วันที่จัดทำรายงานผลการใช้จ่ายงบประมาณ จำแนกเป็นรายสัปดาห์ รายเดือน และรายไตรมาส ตามเป้าหมายการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ในภาพรวมของประเทศ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2567 เพื่อให้การรายงานผลฯ ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
โดยคำนึงถึงระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการใช้จ่ายงบประมาณให้บรรลุวัตถุประสงค์และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด และให้จัดทำปฏิทินการทำงาน (Timeline) ในเรื่องของแผนงานโครงการที่เป็นงบรายจ่ายลงทุนของทุกหน่วยงาน พร้อมระบุรายละเอียดขั้นตอนการดำเนินแต่ละช่วงเวลาที่ชัดเจน
พร้อมสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาการวางระบบสารสนเทศด้านการรายงานผลการใช้จ่ายเงินงบประมาณของกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อให้หน่วยงานในสังกัดสามารถเข้ามากรอกข้อมูลผลการดำเนินงานเป็นรายโครงการในแต่ละสัปดาห์ โดยดำเนินการใน 2 มิติ คือ การติดตามการใช้จ่ายงบประมาณฯ และการควบคุมการใช้จ่ายงบประมาณฯ วางแผนการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด โดยจัดทำแอปพลิเคชัน ระบบการรายงานผลแบบ Real Time
การดำเนินการจ้างเหมาบริการนักการภารโรง ประจำปีงบประมาณ 2567
รมว.ศธ. กล่าวว่า ตามที่ได้รับจัดสรรงบประมาณในการจัดสรรอัตราจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการ ตำแหน่งนักการภารโรง ซึ่งขณะนี้ สพฐ. ได้จัดสรรอัตราจ้างทั้งสิ้นรวม 13,304 อัตรา คงเหลืออัตราที่ยังไม่ได้จัดสรรจำนวน 447 อัตรา จึงขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้แล้วเสร็จด้วยความรวดเร็วให้ทันต่อการเปิดภาคเรียนในปีการศึกษา 2567
พร้อมมอบให้ ผอ.สพท. สำรวจว่าในแต่ละสถานศึกษาในเขตความรับผิดชอบ ได้ดำเนินการจ้างนักการภารโรงครบถ้วนถูกต้องในอัตราที่ได้รับจัดสรรหรือไม่ และเร่งรายงานให้ เลขาธิการ กพฐ. รับทราบ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการดูแลความปลอดภัยของอาคารสถานที่และทรัพย์สินของโรงเรียน ซึ่งจะช่วยลดภาระของครู ทำให้ครูสามารถทำหน้าที่หลักในการจัดการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยยกระดับคุณภาพการศึกษา ซึ่งการมีนักการภารโรงจะช่วยดูแลสภาพแวดล้อม ระบบสาธารณูปโภค ดูแลทรัพย์สินและความปลอดภัยของครูและนักเรียน
การประชุมรัฐมนตรีด้านการศึกษาอาเซียน ครั้งที่ 13 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง
รมว.ศธ. กล่าวว่า การประชุมรัฐมนตรีด้านการศึกษาอาเซียน ครั้งที่ 13 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ที่กำลังจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 23 – 26 สิงหาคมนี้ ณ จังหวัดบุรีรัมย์ ในส่วนของจัดเตรียมความพร้อมได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานด้านต่าง ๆ ในการดำเนินการจัดการประชุมคณะกรรมการอำนวยการดำเนินการจัดการประชุมรัฐมนตรีด้านการศึกษาอาเซียนฯ จำนวน 7 คณะ คือ 1) คณะทำงานด้านต้อนรับพิธีการและงานเลี้ยงรับรอง 2) คณะทำงานด้านสารัตถะ 3) คณะทำงานด้านการประชาสัมพันธ์ 4) คณะทำงานด้านการเดินทางพาหนะและรักษาความปลอดภัย 5) คณะทำงานด้านที่พักและสถานที่จัดการประชุม 6) คณะทำงานด้านสุขภาพและปฐมพยาบาล และ 7) คณะทำงานด้านการศึกษาดูงานและกิจกรรมพิเศษ
พร้อมมอบหมายให้ทุกฝ่ายกำกับ ติดตามการดำเนินงาน แบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบของแต่ละหน่วยงานภายใต้คณะทำงานด้านต่าง ๆ ในการเตรียมความพร้อมการจัดประชุมรัฐมนตรีด้านการศึกษาอาเซียนอย่างเคร่งครัด และกำหนดปฏิทินการทำงานให้ชัดเจน เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการเตรียมความพร้อมของกระทรวงศึกษาธิการ ทั้งนี้ขอให้ทุกหน่วยงาน ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ร่วมมือกันในการดำเนินงานให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
ซึ่งในการประชุมครั้งนี้จะมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาของประเทศสมาชิก เจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการศึกษา เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และภาคีเครือข่าย เข้าร่วมประชุม เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินกิจกรรม/โครงการภายใต้แผนงานด้านการศึกษาของอาเซียน และแนวทางการขับเคลื่อนความร่วมมือด้านการศึกษาและภารกิจด้านการศึกษาที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก ดังนั้นจึงขอให้คณะทำงานด้านต่าง ๆ ดำเนินงานด้วยความร่วมมือร่วมใจกัน เพื่อให้งานสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ
“โครงการ 72 กิจกรรม ศึกษาธิการ เทิดไท้องค์ราชัน 72 พรรษา”
รมว.ศธ. กล่าวว่า ได้รับทราบแผนการดำเนินโครงการ 72 กิจกรรม ศึกษาธิการ เทิดไท้องค์ราชัน 72 พรรษา มหามงคล เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยคณะกรรมการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ของกระทรวงศึกษาธิการ ได้ดำเนินการรวบรวมข้อมูลโครงการ/กิจกรรม ของหน่วยงานในสังกัดและกำกับ ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยมีมติเห็นชอบโครงการ/กิจกรรม จำนวน 72 กิจกรรม เพื่อเสนอให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) คณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการและกิจกรรมร่วมเฉลิมพระเกียรติฯ พิจารณาในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการต่อไป
ทั้งนี้ ในส่วนของโครงการ/กิจกรรมของกระทรวงศึกษาธิการที่ได้รับการเห็นชอบ อาทิเช่น กิจกรรมชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 กิจกรรมอาชีวะสร้างงาน สร้างอาชีพในชุมชน 72,000 คน กิจกรรมผลิตสื่ออุปกรณ์ภูมิปัญญาชาวบ้านสำหรับบุคคลที่มีความบกพร่องทางร่างกาย หรือการเคลื่อนไหวหรือสุขภาพ กิจกรรม สทศ. ปันน้ำใจให้แก่โรงเรียนและนักเรียนขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ทางการเรียน และอุปกรณ์กีฬาและให้ความรู้ด้านการนำผล O-net ไปใช้ในการพัฒนาการจัดการเรียนการสอน กิจกรรมบริจาคโลหิตฯ และกิจกรรมฝึกทักษะอาชีพนักเรียน นักศึกษาอาชีวะ ให้บริการล้างแอร์ตามสถานที่สาธารณประโยชน์ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ซึ่งในขณะนี้ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ดำเนินกิจกรรมเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในช่วงฤดูร้อน ลดภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือน โดยมีนักเรียน นักศึกษาอาชีวศึกษา ออกให้บริการในพื้นที่สาธารณะ เช่น บ้านพัก ที่อยู่อาศัย สถานศึกษา และหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้บริการประชาชนที่ขอรับบริการ โดยสามารถลงทะเบียนเพื่อขอรับบริการ ทาง http://www.vec.go.th ได้ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป
ผลการดำเนินการในการยกระดับความสามารถทางการแข่งขันด้านการศึกษา IMD
รมว.ศธ. กล่าวว่า ได้รับทราบ ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศโดย World Competitiveness Center ของ International Institute for Management Development หรือสถาบัน IMD สวิตเซอร์แลนด์ ได้จัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศเป็นประจำทุกปี โดยพิจารณาจากตัวชี้วัดสำคัญ 4 ปัจจัยหลักคือ สมรรถนะทางเศรษฐกิจ ประสิทธิภาพภาครัฐ ประสิทธิภาพทางธุรกิจ และโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งผลการจัดอันดับ IMD 2023 ในภาพรวมพบว่าประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 30 จาก 64 ประเทศ เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 3 ลำดับ และในด้านการศึกษา ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 54 ลดลง 1 อันดับ ซึ่งจากผลการวัดระดับของ IMD แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาด้านการศึกษาของไทย ดังนั้นกระทรวงศึกษาธิการ จึงต้องเร่งพัฒนาและกำหนดแนวทางในการพัฒนาการศึกษาไทยให้มีมาตรฐานเทียบเท่าสากล การให้ความสำคัญในเชิงคุณภาพมากกว่าเชิงปริมาณ โดยเน้นให้ความสำคัญกับตัวชี้วัดที่ส่งผลต่อคุณภาพการศึกษาเป็นอันดับแรก โดยเฉพาะผลการทดสอบ PISA อัตราการเข้าเรียนระดับมัธยมศึกษา ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ และอัตราการรู้หนังสือ เป็นต้น
รมว.ศธ. ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานให้ความร่วมมือในการขับเคลื่อนการดำเนินงาน ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบแต่ละตัวชี้วัดให้มีการวางแผนการดำเนินงานให้ชัดเจน และจัดทำระบบฐานข้อมูลด้านการศึกษาให้มีความสมบูรณ์ ครบถ้วนและทันสมัย ถือเป็นเรื่องที่ดี ที่การศึกษาของประเทศไทยได้รับความสนใจและมีการร่วมสะท้อนมุมมองทางการศึกษา ทั้งจากภายในกระทรวง ภายนอกกระทรวง และระดับสากล เพราะภารกิจด้านการศึกษาไม่ใช่งานของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นภารกิจที่เราต้องร่วมมือร่วมใจกัน ทำงานและประสานความร่วมมือไปด้วยกัน ตามแนวทางการทำงานของ รมว.ศธ. จับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน
การดำเนินโครงการสุขาดี มีความสุข ห้องน้ำโรงเรียน “สะอาด สะดวก สบาย สุขลักษณะ สวยงาม”
รมว.ศธ. กล่าวว่า ได้รับทราบการดำเนินโครงการ “สุขาดี มีความสุข” ตามที่ได้มีนโยบายในการปรับปรุงห้องน้ำโรงเรียน ซึ่ง สพฐ. ได้จัดสรรงบประมาณในการปรับปรุงห้องน้ำโรงเรียนให้แก่กลุ่มโรงเรียนขนาดเล็ก โดยให้โรงเรียนที่ได้รับการจัดสรรดำเนินการให้ทันก่อนการเปิดภาคเรียน ซึ่งเป้าหมาย คือ การปรับปรุงและซ่อมแซม ทั้งสุขภัณฑ์ในห้องน้ำให้สะอาดและถูกสุขลักษณะ รวมถึงระบบน้ำประปา การติดตั้งระบบไฟฟ้า ไฟแสงสว่างภายในให้เพียงพอ และปลอดภัย การทาสีห้องน้ำ จัดสภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกให้เหมาะสมถูกสุขลักษณะ เพื่อให้ห้องน้ำโรงเรียนสะอาด (แห้ง หอม) (Clean) สะดวก (Convenient) สบาย (Comfortable) สุขลักษณะ (Hygiene) และ สวยงาม (Attractive) ซึ่งในขณะนี้มีโรงเรียนที่ดำเนินการปรับปรุงห้องน้ำโรงเรียนไปบางส่วน และทาง สพฐ. จะดำเนินการจัด KICK OFF โครงการ “สุขาดี มีความสุข” ในวันพุธที่ 8 พ.ค. 2567 นี้
“ขอให้โครงการสุขาดี มีความสุข เป็นส่วนหนึ่งในการอำนวยความสะดวก สร้างความสุขให้แก่ทุกคนในโรงเรียน ถือเป็นการสร้างความเท่าเทียมให้เกิดขึ้นภายในโรงเรียน จะมีห้องน้ำที่แบ่งแยกเฉพาะห้องน้ำชาย-หญิงเท่านั้น ไม่ว่าเป็นผู้บริหาร ครู บุคลากร นักเรียน ผู้ปกครอง หรือผู้มาติดต่อราชการ รวมถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อไปตรวจราชการที่แห่งใด ก็สามารถใช้ห้องน้ำที่สะอาดและได้มาตรฐานร่วมกับทุกคนได้”
ข้อสั่งการของ รมว.ศธ. ในที่ประชุมฯ
การทุจริตของผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ในสถานศึกษาสังกัด ศธ.
จากประเด็นที่เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอย่างเป็นวงกว้างในเรื่องผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ในสถานศึกษาสังกัด ศธ. ประพฤติตนไม่เหมาะสมเรียกรับสินบนเพื่ออำนวยผลประโยชน์ในด้านต่าง ๆ นั้น เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าว รวมถึงป้องกันมิให้เกิดปัญหาการเรียกรับหรือให้สินบน อันเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน และเป็นการป้องปรามมิให้บุคลากรภายในหน่วยงานกระทำการซึ่งอาจเป็นความผิดทางอาญา ทางวินัย หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หัวหน้าส่วนราชการต้องทำหนังสือซักซ้อมชี้แจง เพื่อให้การดำเนินงานสามารถตรวจสอบได้ มีความโปร่งใสในการปฏิบัติงานและไม่เข้าไปมีส่วนได้เสียในส่วนที่เกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่ของตน พึงระวังการรักษาความลับของราชการโดยเคร่งครัด จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ภายใน ศธ. สร้างความเข้าใจและกระตุ้นเตือนกรณีที่อาจเกิดความสุ่มเสี่ยงในการเรียกรับผลประโยชน์
ทั้งนี้ หากการกระทำผิดมีหลักฐานที่ค่อนข้างชัดเจน จะให้ออกจากราชการไว้ก่อนค่อยสอบสวนข้อเท็จจริงภายหลัง แต่ถ้าหากมีการกระทำผิดจริงแต่หลักฐานยังไม่พร้อมมูล ก็ต้องให้ย้ายออกจากพื้นที่เข้ามาช่วยราชการส่วนกลางก่อน พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน นอกจากนี้ ต้องให้ความคุ้มครองช่วยเหลือผู้แจ้งข้อมูล เบาะแส รวมทั้งการยกย่อง ชมเชยให้รางวัลแก่บุคลากรสังกัด ศธ. ในการส่งเสริมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ ชี้แจงผลการดำเนินงานให้สาธารณชนได้รับทราบอยู่เสมอไม่ควรปล่อยให้เรื่องเงียบหายไปเอง เพื่อให้การดำเนินงานมีความโปร่งใส ทุกคนที่สนใจสามารถตรวจสอบได้
การลงพื้นที่ตรวจราชการของผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ
ให้มีการบูรณาการการลงพื้นที่ตรวจราชการ โดยสั่งการให้ สพฐ. สอศ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สนับสนุนข้อมูลในการลงพื้นที่ตรวจราชการ เช่น การเร่งรัดการดำเนินงานการแก้ไขหนี้สินครูฯ ผลการทดสอบ PISA และการขับเคลื่อนการยกระดับคุณภาพมาตรฐานการศึกษา PISA ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) และการจัดการศึกษาในพื้นที่ เป็นต้น และนอกจากนี้ในส่วนของหัวหน้าผู้ตรวจราชการก็ได้ดำเนินการตามข้อสั่งการ ในการจัดทำแผนการตรวจราชการฯ ให้มีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาตินโยบายของรัฐบาลและนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ขอความร่วมมือส่วนราชการทุกหน่วยงานปฏิบัติงานเชิงรุก
ปฏิบัติงานด้วยความถูกต้องและรวดเร็วขอให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ เน้นการทำงานเชิงรุก เน้นประสิทธิภาพ มีความรวดเร็ว และเป็นมืออาชีพ โดยการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการพัฒนางาน จัดทำระบบข้อมูล การติดตาม และการรายงานผล เพื่อให้กระทรวงศึกษาธิการเป็นหน่วยงานที่มีระบบราชการ 4.0 ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ขีดสมรรถนะสูงและทันสมัย ภายใต้การดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ต่าง ๆ ของกระทรวงศึกษาธิการ
ขอความร่วมมือส่วนราชการทุกหน่วยงาน ในการรักษาความสะอาด
ปรับปรุงอาคาร สถานที่ ให้มีความร่มรื่น พร้อมให้บริการแก่ผู้มาติดต่อราชการ ณ สถานที่ของกระทรวงศึกษาธิการ รวมถึงเป็นการสร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงานให้แก่บุคลากรทุกคน ขอบคุณ สพฐ. ที่เป็นหน่วยงานนำร่องในการจัดทำโครงการสุขาดี มีความสุข ซึ่งอยากให้เป็นแนวทางแก่ทุกหน่วยงานของ ศธ. ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็น สำนักงาน หน่วยงาน ห้องสมุด หรือศูนย์การเรียนรู้ เป็นต้น ทุกคนต้องมีห้องน้ำที่สะอาดและสามารถใช้ห้องน้ำร่วมกันอย่างมีความสุขได้
อานนท์ วิชานนท์ / ข่าว
ศุภณัฐ วัฒนมงคลลาภ / วีดิทัศน์
ณัฐพล สุกไทย / ภาพ
The post เสมา 1 ย้ำผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ ศธ. ต้องปลอดทุจริตเด็ดขาด พร้อมเตรียมจัด 72 กิจกรรม ศึกษาธิการเทิดไท้องค์ราชัน 72 พรรษา มหามงคล appeared first on กระทรวงศึกษาธิการ.