5 มีนาคม 2568 – กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ (สลช.) จัดพิธีรับพระราชทานเหรียญลูกเสือยั่งยืน ประจำปี 2565 เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยพลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะรองประธานกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ, นายวรัท พฤกษาทวีกุล รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ทำหน้าที่เลขาธิการสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ, กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของสภาลูกเสือไทย, กรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ และบุคลากรทางการลูกเสือ เข้าร่วมพิธี ณ หอประชุมคุรุสภา

พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเหรียญลูกเสือยั่งยืน ประจำปี 2565 แก่บุคลากรทางการลูกเสือ ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 15 ปี ด้วยความวิริยะ อุตสาหะ ทำงานด้วยความเรียบร้อย ไม่เกิดความเสียหาย ก่อให้เกิดผลดีต่อกิจการลูกเสือ จำนวน 108 ราย

ทั้งนี้ กิจการลูกเสือเป็นกระบวนการสำคัญ ในการพัฒนาคุณภาพเยาวชนให้รู้จักการรักษาระเบียบวินัย สร้างการรู้รักสามัคคีในหมู่คณะ มีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ปลูกจิตสำนึกการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างเกื้อกูลและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นคุณสมบัติพื้นฐาน เสริมสร้างให้เด็กและเยาวชนมีความเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในอนาคต

หวังเป็นอย่างยิ่งว่า บรรดาผู้ที่ได้รับพระราชทานเหรียญลูกเสือยั่งยืนในวันนี้ จะได้ธำรงรักษาคุณความดีที่ปฏิบัติมา และรวมพลังทุ่มเทการปฏิบัติภารกิจลูกเสือ ให้สัมฤทธิ์ผลสำเร็จดังเจตนารมณ์ ตามคำปฏิญาณที่ให้ไว้ เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เยาวชนลูกเสือรุ่นหลัง และเพื่อประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศไทยแบบยั่งยืน นอกจากจะได้อุทิศตนโดยปฏิบัติภารกิจของลูกเสือให้เกิดผลสำเร็จอย่างดียิ่งจนเป็นที่ประจักษ์ และได้รับการยกย่องสรรเสริญแล้ว การได้รับพระราชทานเหรียญลูกเสือยั่งยืนในวันนี้ จึงเป็นการประกาศคุณความดี และเป็นเกียรติประวัติสำหรับตนเองและวงศ์ตระกูลสืบไป

สำหรับพิธีในครั้งนี้ นายวรัท พฤกษาทวีกุล รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ทำหน้าที่เลขาธิการสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ กล่าวเบิกตัวผู้ได้รับพระราชทานเหรียญลูกเสือยั่งยืน ประจำปี 2565 และนำกล่าวทบทวนคำปฏิญาณ ตามประเพณีของลูกเสือ ความว่า

พี่น้องลูกเสือกล่าวคำปฏิญาณตามข้าพเจ้า
ด้วยเกียรติของข้า ข้าสัญญาว่า
ข้อ 1 ข้าจะจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
ข้อ 2 ข้าจะช่วยเหลือผู้อื่นทุกเมื่อ
ข้อ 3 ข้าจะปฏิบัติตามกฎของลูกเสือ

จากนั้น นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะรองประธานกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ เป็นประธานพิธีมอบประกาศเกียรติคุณแก่ผู้บริหาร ผู้สอน และผู้สนับสนุนกิจการลูกเสือดีเด่น ประจำปี 2567 รวมทั้งสิ้น 801 คน จากทั่วประเทศ

นายสุเทพ แก่งสันเทียะ กล่าวว่า รางวัลนี้เป็นเครื่องหมายแห่งความุ่งมั่น ทุ่มเท และเสียสละในการส่งเสริมและพัฒนากิจการลูกเสือให้เจริญก้าวหน้า และยังเป็นโอกาสอันดีที่พวกเราทุกคนได้มาร่วมกันแสดงความยินดีกับท่านที่ได้รับรางวัล ซึ่งแต่ละท่านล้วนเป็นผู้ที่ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ และสติปัญญาในการพัฒนากิจการลูกเสือให้ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง

กิจการลูกเสือมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างระเบียบวินัย คุณธรรม และจิตอาสาให้กับเยาวชนของชาติ เป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาสังคมและประเทศชาติในอนาคต ความสำเร็จที่เกิดขึ้นในวันนี้ มิได้มาจากความพยายามของบุคคลใดบุคคลหนึ่งเพียงลำพัง แต่เกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหารที่ให้การสนับสนุนนโยบายอย่างเข้มแข็ง ผู้สอนที่มุ่งมั่นอบรมลูกเสือด้วยความเสียสละ รวมถึงผู้สนับสนุนทุกท่านที่ให้การช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ ดังนั้นท่านทั้งหลายล้วนเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนให้ลูกเสือได้รับการปลูกฝังคุณธรรมและจริยธรรมที่ดีงาม ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาสังคมและประเทศชาติ

ขอให้ท่านทั้งหลายยึดมั่นในคำปฏิญาณและกฎของลูกเสือ ตั้งปณิธานแห่งการทำความดี และเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ลูกเสือและเยาวชนของเรา เชื่อมั่นว่าด้วยกำลังของท่านทั้งหลาย กิจการลูกเสือของเราจะเจริญก้าวหน้าต่อไป และจะยังคงเป็นสถาบันที่ช่วยพัฒนาเยาวชนไทยให้เป็นคนดี มีคุณภาพ และเป็นกำลังสำคัญของประเทศในอนาคต ขอให้กิจการลูกเสือของเราจงเจริญก้าวหน้า เป็นแสงสว่างนำทางให้แก่เยาวชนไทยตลอดไป

บัลลังก์ โรหิตเสถียร : สรุป
กลุ่มสารนิเทศ สป.ศธ. : ถ่ายทอดสด วีดิทัศน์ และภาพถ่าย

The post สำนักงานลูกเสือแห่งชาติ จัดพิธีรับพระราชทานเหรียญลูกเสือยั่งยืนประจำปี 2565 เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว appeared first on กระทรวงศึกษาธิการ.

Share This Article

Related Post