โฆษก ศธ. ‘สิริพงศ
13 กันยายน 2567 – นายสิริ...
“ความเป็นผู้รู้จักเวลา เป็นรากฐานสำคัญ ที่ทำให้คนเราสามารถดูแลรับผิดชอบตนเองได้ อันจะนำไปสู่ความสำเร็จที่สูงขึ้นต่อไปในอนาคต เด็กทุกคนจึงควรได้รับการปลูกฝังให้เป็นผู้รู้จักเวลา รู้ว่าเวลาใดควรปฏิบัติสิ่งใด แล้วปฏิบัติให้ตรงเวลา ทันเวลา เหมาะแก่เวลาเสมอ”
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานพระบรมราโชวาทอันทรงคุณค่า เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 ทรงเน้นย้ำถึง “ความเป็นผู้รู้จักเวลา” ซึ่งพระองค์ทรงเห็นว่าเป็นรากฐานสำคัญของการดำรงชีวิต และเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้เด็กไทยทุกคนสามารถดูแลและรับผิดชอบตนเองได้อย่างเหมาะสม พระราชดำรัสในครั้งนี้มีความลึกซึ้งและเปี่ยมด้วยพระเมตตา โดยพระองค์ทรงมุ่งหวังให้เด็กไทยได้เข้าใจถึงความสำคัญของการบริหารจัดการเวลา ซึ่งถือเป็นคุณธรรมพื้นฐานที่จะนำพาไปสู่ความสำเร็จ
พระองค์ทรงให้ความสำคัญกับเด็กไทยทุกคนในฐานะรากฐานของอนาคตประเทศชาติ ทรงตระหนักถึงศักยภาพของเด็กไทย และทรงพระราชทานแนวทางในการสร้างเสริมคุณธรรมที่สำคัญ ด้วยพระเมตตาอันเปี่ยมล้น พระองค์ทรงมุ่งมั่นที่จะเห็นเด็กไทยทุกคนได้รับการปลูกฝังให้เป็นผู้รู้จักบริหารเวลา เข้าใจคุณค่าและการใช้เวลาที่เหมาะสมในแต่ละช่วงของชีวิต พร้อมทั้งทรงเน้นย้ำว่าการปลูกฝังวินัยในเรื่องเวลาคือหัวใจสำคัญที่จะช่วยพัฒนาเด็กไทยให้เติบโตขึ้นเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติอย่างมั่นคงและยั่งยืน
“วันเด็กแห่งชาติ” ถือเป็นโอกาสสำคัญที่ทุกภาคส่วนในสังคม ร่วมกันให้ความสำคัญกับการพัฒนาและเสริมสร้างโอกาสให้กับเด็กไทย ซึ่งเป็นทรัพยากรสำคัญที่จะขับเคลื่อนประเทศไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน รัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ ตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนาเด็กและเยาวชน เพื่อเตรียมพร้อมให้พวกเขาเติบโตเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ
“โอกาส” คือการเรียนรู้ รัฐบาลให้ความสำคัญกับ “เด็กไทย เป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่าของประเทศ เป็นพลังในการสร้างสรรค์และกำหนดทิศทางการพัฒนาประเทศในอนาคตให้ก้าวหน้าอย่างมั่นคง การสนับสนุนและส่งเสริมให้เด็กไทยทุกคน ได้เติบโตอย่างมีคุณภาพและมีสุขภาวะที่ดีทางร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา รวมทั้งมีโอกาสที่จะได้รับการศึกษา เพิ่มพูนทักษะการดำเนินชีวิตในโลกยุคใหม่” นี่คือส่วนหนึ่งของสารวันเด็กจากนายกรัฐมนตรี ที่ส่งต่อข้อความแห่งความปรารถนาดีถึงเด็ก ๆ ทุกคน
รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในทุกช่วงวัย โดยเฉพาะในด้านการศึกษาและการสร้างโอกาสในการพัฒนาศักยภาพของบุคคล ตั้งแต่ในวัยเด็กจนถึงวัยผู้ใหญ่ ซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถเติบโตและพัฒนาเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ พร้อมทั้งมีความสามารถในการสร้างคุณค่าและเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะในด้านการส่งเสริมให้เด็กทุกคนได้เติบโตในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม สนับสนุนการเรียนรู้ ที่มีความสุข และมีสุขภาพที่ดีทั้งในด้านร่างกาย จิตใจ และสังคม เพื่อให้เด็กไทยทุกคนมีโอกาสในการพัฒนาตนเองได้อย่างเต็มที่ตามศักยภาพของตนเอง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการเตรียมความพร้อมให้กับเยาวชน ในการเป็นกำลังสำคัญของการพัฒนาประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะ “ทุกโอกาส คือการเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง” คำขวัญวันเด็ก ปี 2568 ของนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร พร้อมเป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็กไทย มีพลังเพื่อการเติบโตเพื่อเป็นกำลังสำคัญของชาติ
“ความสุข ของผู้เรียน คือหัวใจสำคัญของการจัดการศึกษา” ภายใต้การนำของ พลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่เน้นย้ำอยู่เสมอในการขับเคลื่อนนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” มุ่งหวังให้การศึกษาของเด็กไทยไม่เพียงแต่มีคุณภาพในด้านวิชาการ แต่ยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมให้เด็กไทยมีความสุขและเพลิดเพลินกับการเรียนรู้ เพื่อให้เด็กไทยทุกคนมีความกระตือรือร้นในการศึกษา และสามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการพัฒนาเป็นบุคคลที่มีความรับผิดชอบและมีความสามารถในการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ ใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาดให้เกิดประโยชน์ในทางสร้างสรรค์ พร้อมทั้งยึดถือแนวปฏิบัติตามหลักคำสอนทางศาสนา ธำรงนักศึกษาสถาบันหลักของชาติ
การสร้างบรรยากาศการเรียนที่สนุกสนานและมีความสุขจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะเมื่อเด็กได้รับประสบการณ์การเรียนรู้ในสภาพแวดล้อมที่เปิดโอกาสให้สามารถแสดงออก และมีความสนุกสนานในทุกการกระทำ จะช่วยเพิ่มแรงจูงใจให้เด็กมีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้และพัฒนาทักษะต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งไม่เพียงแต่จะทำให้ประสบความสำเร็จในการศึกษาเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้มีทักษะด้านอารมณ์และการเข้าสังคมที่ดี ที่จะช่วยให้สามารถปรับตัวและทำงานร่วมกับผู้อื่นได้
นอกจากนี้ยังมีนโยบายในการลดภาระนักเรียนและผู้ปกครอง เพื่อให้การศึกษามีความยืดหยุ่นและเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของครอบครัว ให้ความสำคัญกับการเข้าถึงการศึกษาที่หลากหลาย มีการเรียนรู้ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความสามารถ เพื่อให้เด็กทุกคนสามารถเลือกเรียนได้ตามความสนใจ ซึ่งจะทำให้เด็กไทยสามารถพัฒนาทักษะต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่และมีความสุขกับการเรียนรู้อย่างยั่งยืน พร้อมสนับสนุนการสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชนโรงเรียน ครู และผู้ปกครอง เพื่อการส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็กไทยอย่างครบวงจร เพื่อให้ทุกฝ่ายสามารถมีส่วนร่วมในการพัฒนาการศึกษาของเด็กไทยในทิศทางที่ดีที่สุด และช่วยให้ทุกคนสามารถเติบโตขึ้นอย่างมีคุณภาพ มีความสุข และสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพในสังคมต่อไป
การพัฒนาเด็กไทยให้มีศักยภาพและเติบโตอย่างมีคุณภาพไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน แต่ต้องอาศัย “เวลา” ในการเรียนรู้ “โอกาส” ที่เท่าเทียม และ “ความสุข” ในการใช้ชีวิต ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เด็กไทยก้าวไปสู่อนาคตที่สดใส “วันเด็ก” จึงไม่เพียงแต่เป็นการเฉลิมฉลองเท่านั้น แต่ยังเป็นการเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเสริมสร้างโอกาสให้เด็กไทยได้รับการพัฒนาอย่างเต็มที่ ทั้งในด้านการศึกษาและทักษะชีวิต เพื่อให้มีความพร้อมในการรับมือกับโลกที่ท้าทาย จึงได้มีการส่งเสริมกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้เด็กไทยได้รับความสุข ความรู้และทักษะที่เหมาะสม โดยมุ่งหวังให้เด็กไทยเติบโตและมีความสุข
ในที่สุดแล้ว “วันเด็กแห่งชาติ” เป็นอีกหนึ่งโอกาส ที่เราจะร่วมกันตระหนักถึงความสำคัญของอนาคตของชาติ ซึ่งก็คือการพัฒนาเด็กไทยให้เติบโตเป็นคนที่มี “ความรู้จักเวลา” หรือการบริหารจัดการเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เด็กไทยทุกคนสามารถดูแลและรับผิดชอบตนเองได้อย่างมีคุณภาพ และพร้อมที่จะเผชิญกับความท้าทายในอนาคตอย่างมั่นคง สร้าง “โอกาส” ในการพัฒนาศักยภาพของตนเอง ส่งเสริมการเรียนรู้ที่ไม่มีขีดจำกัด และเปิดโอกาสให้สร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ด้วย “ความสุข” เพราะเราทุกคนเชื่อว่า ความสุขเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญในการสร้างสรรค์สิ่งที่ดี ร่วมกันไขกุญแจแห่งการเรียนรู้ เพื่อให้ทุกคน “เรียนดี มีความสุข” เติบโตพร้อมสู่อนาคตที่สดใส เพียงแค่พวกเรา “จับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน”
อานนท์ วิชานนท์ / สกู๊ป-กราฟิก