รมว.ศธ. “เพิ่มพูน
10 ธันวาคม 2567 – พลตำรวจ...
พลตำรวจเอก “เพิ่มพูน” ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ ผู้ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนากิจการลูกเสือไทยอย่างจริงจัง โดยนับตั้งแต่ดำรงตำแหน่ง ได้มีการพัฒนา เดินหน้ากิจการลูกเสือไทย โดยเน้นการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานในสังกัดและในกำกับ รวมถึงหน่วยงานต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด ภายใต้แนวทาง “จับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน” และ “ลูกเสือช่วยเหลือผู้อื่นทุกเมื่อ ทำดี ทำได้ ทำทันที”
ซึ่งแนวทางดังกล่าวไม่เพียงแค่หมายถึงการประสานงานเท่านั้น แต่ยังเป็นการยกระดับการทำงานเป็นทีมที่เข้มแข็ง เพื่อให้กิจการลูกเสือไทยเดินหน้าสู่ความสำเร็จในทุกด้าน ทั้งการเสริมสร้างคุณภาพการศึกษา การพัฒนาทักษะชีวิตและการสร้างคุณธรรมในเยาวชนไทย ให้ความสำคัญกับการปลูกฝังความรู้ ความเข้าใจ ทัศนคติที่ถูกต้อง เกี่ยวกับงานลูกเสือ และสถาบันหลักของชาติ
สะท้อนถึงการร่วมมือกันระหว่างกระทรวงศึกษาธิการ และองค์กรหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทุกระดับ เพื่อประสานงานการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การฝึกอบรม การพัฒนาหลักสูตรลูกเสือ และการจัดกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ ซึ่งช่วยให้เยาวชนเติบโตเป็นบุคคลที่มีคุณภาพและจิตสำนึกที่ดี เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ให้ “เพิ่มพูนในทุกมิติ”
“เพิ่มพูน” ลูกเสือช่วยเหลือผู้อื่นทุกเมื่อ คือ หลักการสำคัญที่เป็นส่วนหนึ่งของคำปฏิญาณลูกเสือ ดังนั้น จึงต้องเพิ่มพูนทัศนคติที่ดี ให้ลูกเสือมีจิตสำนึกในการช่วยเหลือผู้อื่นในทุกสถานการณ์ ส่งเสริมให้ลูกเสือมีความเมตตาและพร้อมที่จะยื่นมือให้ความช่วยเหลือแก่ผู้อื่นเมื่อมีโอกาส ทั้งการให้ความช่วยเหลือทั้งในด้านร่างกายและจิตใจ อาทิ การปฏิบัติหน้าที่จิตอาสา การช่วยเหลือผู้ที่กำลังประสบภัยพิบัติ การแบ่งปันทรัพยากรโดยไม่หวังผลตอบแทน หลักการนี้ไม่เพียงแต่เป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในสังคม แต่ยังเป็นการฝึกฝนลูกเสือให้เติบโตเป็นบุคคลที่มีคุณธรรมและสามารถทำประโยชน์ให้แก่สังคมได้
กระทรวงศึกษาธิการ ได้แสดงถึงความมุ่งมั่นในการพร้อมจะสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของลูกเสือ ยุวกาชาด เนตรนารี และผู้บำเพ็ญประโยชน์ทุกคน มีเป้าหมายในการเสริมสร้างทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่นของเยาวชนไทย เสริมสร้างจิตสำนึกของการเสียสละและความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งจะช่วยให้ลูกเสือไทยสามารถเป็นพลเมืองที่ดีและมีความรับผิดชอบต่อส่วนรวมได้ในอนาคต
“เพิ่มพูน” ลูกเสือทำดี กระทรวงศึกษาธิการ ให้ความสำคัญในการส่งเสริมกิจกรรมลูกเสือไทย ภายใต้แนวทาง “การทำดี” ซึ่งถือเป็นหลักสำคัญที่ลูกเสือทุกคนจะต้องยึดถือและปฏิบัติในชีวิตประจำวัน การส่งเสริมให้ลูกเสือทำดีนั้น ไม่ได้เป็นเพียงการพัฒนาทักษะชีวิต แต่ยังเป็นการปลูกฝังคุณธรรมและจริยธรรมที่เป็นรากฐานสำคัญในการสร้างสังคมที่มีคุณภาพ โดยได้เน้นการฝึกฝนให้ลูกเสือมีความซื่อสัตย์ การเสียสละ ความรับผิดชอบ และความมีน้ำใจ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ทำให้ลูกเสือสามารถช่วยเหลือผู้อื่นและสังคมได้ในทุกสถานการณ์ ซึ่งให้สอดแทรกไปในกิจกรรมการเรียนการสอน เพื่อปลูกฝังให้ใช้ชีวิตอย่างมีระเบียบวินัยและจริยธรรม
นอกจากนี้ กระทรวงศึกษาธิการ ยังสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ ที่ให้ลูกเสือได้มีโอกาสลงมือทำงานเพื่อสังคม เช่น การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและจังหวัดใกล้เคียง การจัดกิจกรรมลูกเสือจิตอาสา การตั้งหน่วยลูกเสือจิตอาสาพระราชทาน ให้ลูกเสือมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชน ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างจิตสำนึกในการรับผิดชอบต่อสังคม และพัฒนาคุณสมบัติของลูกเสือให้พร้อมเป็นผู้นำที่ดีในอนาคต ด้วยการส่งเสริมให้ลูกเสือทำดีและมุ่งหวังให้เยาวชนไทยเติบโตขึ้นมาเป็นบุคคลที่มีคุณธรรม และเป็นแรงขับเคลื่อนในการพัฒนาสังคมให้มีความเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน
“เพิ่มพูน” ลูกเสือทำได้ การมุ่งเน้นการสร้างพลังเยาวชนที่สามารถพัฒนาและช่วยเหลือสังคม เพื่อกระตุ้นให้เยาวชนไทยมีความมั่นใจในตัวเอง และเชื่อมั่นในความสามารถของตนเองที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม มุ่งเน้นการพัฒนาลูกเสือให้สามารถพัฒนาทักษะชีวิต เพิ่มพูนการรับผิดชอบต่อสังคม หรือการสร้างคุณธรรม กระทรวงศึกษาธิการได้จัดกิจกรรมต่าง ๆ ที่ช่วยเสริมสร้างทักษะและความสามารถของลูกเสือ ผ่านการพัฒนาและอบรมในหลักสูตรลูกเสือในสถานศึกษา หรือนอกสถานศึกษา เช่น หลักสูตรลูกเสือจิตอาสา ลูกเสือ-เนตรนารีจราจร ลูกเสือมัคคุเทศก์ เป็นต้น
ซึ่งกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงการทำกิจกรรมอาสาสมัคร การช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส หรือการดูแลสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะทำให้ลูกเสือเห็นผลลัพธ์จากการปฏิบัติหน้าที่ของตนเอง และเข้าใจถึงพลังแห่งความร่วมมือ ด้วยการส่งเสริมแนวคิดนี้ กระทรวงศึกษาธิการหวังที่จะเห็นลูกเสือไทยเติบโตขึ้นเป็นคนที่มีความสามารถในการคิดแก้ปัญหา กล้าเผชิญความท้าทาย และมีจิตสำนึกที่ดีในการช่วยเหลือสังคม
“เพิ่มพูน” ลูกเสือทำทันที ศธ.ปลูกฝังจิตสำนึกในการลงมือทำเพื่อสังคม เพื่อให้ลูกเสือมีความพร้อมและความตั้งใจในการลงมือทำสิ่งต่าง ๆ มีการมุ่งเน้นและส่งเสริมให้ลูกเสือเป็นคนที่มีความรับผิดชอบ รู้จักการตัดสินใจและลงมือทำทันทีเมื่อเห็นสิ่งที่สามารถทำให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและสังคม และยังช่วยพัฒนาทักษะการจัดการเวลาและการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อจะช่วยพัฒนาเยาวชนให้มีความกระตือรือร้น มีความรับผิดชอบ และเป็นคนที่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที
มุ่งเน้นให้ลูกเสือกลายเป็นบุคคลที่มีจิตสำนึกดีในการช่วยเหลือและพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน โดยลูกเสือจะได้รับการฝึกฝนให้เห็นความสำคัญของการลงมือทำในทันที เช่น การช่วยเหลือผู้อื่นในยามที่มีความจำเป็น ดังที่มีเหตุการณ์ช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุรถยนต์ตกน้ำ โดย รมว.ศธ. ได้ชื่นชม ด.ช.ณัฐพล ศรีสุวรรณ ลูกเสือสามัญโรงเรียนบ้านย่านซื่อ จ.ตรัง ในความกล้าหาญเสียสละ ซึ่งใช้ทักษะจากการเรียนใน “วิชาลูกเสือ” เพื่อช่วยเหลือผู้อื่นทันทีเมื่อเกิดเหตุ
“เพิ่มพูน” การปฏิบัติภารกิจของกิจการลูกเสือไทย ภายใต้แนวทาง “ลูกเสือช่วยเหลือผู้อื่นทุกเมื่อ ทำดี ทำได้ ทำทันที” นี้ สะท้อนถึงความตั้งใจของกระทรวงศึกษาธิการ ในการพัฒนากิจการลูกเสือไทยอย่างยั่งยืน โดยมุ่งหวังที่จะให้ “ลูกเสือไทย” เป็นเครื่องมือในการเสริมสร้างเยาวชนให้เป็น “พลเมืองที่ดี” มีคุณธรรม สามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงในสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการเน้นความร่วมมือและการทำงานเป็นทีม ทำด้วยความรวดเร็ว และจิตอาสา เพื่อให้การพัฒนาไม่เพียงแต่มีผลในระยะสั้น แต่ยังหมายถึงการพัฒนายั่งยืน และสามารถสร้างประโยชน์ต่อเยาวชนและสังคมในระยะยาวได้
การเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพของเยาวชนผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ของลูกเสือ ต้องมุ่งเน้นการร่วมมือจากทุกภาคส่วน เช่น ครู ผู้ปกครอง และองค์กรต่าง ๆ ซึ่งการทำงานร่วมกันตามแนวทาง “จับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน” ไม่เพียงแต่จะช่วยให้เกิดความเข้าใจที่ดีขึ้นระหว่างทุกฝ่าย แต่ยังสามารถทำให้การพัฒนากิจการลูกเสือไทยมีผลสัมฤทธิ์และมีความยั่งยืนมากขึ้น เพื่อพัฒนาและเดินหน้ากิจการลูกเสือไทยให้ “เพิ่มพูน” สืบไป
อานนท์ วิชานนท์ / สกู๊ป
บัลลังก์ โรหิตเสถียร / บรรณาธิการ
The post สกู๊ปพิเศษ ศธ.360 องศา “เพิ่มพูน” มุ่งมั่น พัฒนา เดินหน้ากิจการลูกเสือไทย “ลูกเสือช่วยเหลือผู้อื่นทุกเมื่อ ทำดี ทำได้ ทำทันที” appeared first on กระทรวงศึกษาธิการ.