18​ มีนาคม​ 2567​ / นายสุรศักดิ์​ พันธ์​เจริญ​ว​ร​กุล​ รัฐมนตรี​ช่วยว่าการ​กระทรวง​ศึกษาธิการ​ พร้อมด้วย​นายรังสรรค์ วันไชยธนวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (ประจำนายอนุทิน ชาญวีรกูล), นายพิษณุ พลธี ผู้ช่วยเลขานุการ​ ​รมว.ศธ., นายกมล รอดคล้าย ประธานคณะทำงาน รมช.ศธ., นายพิเชฐ โพธิ์ภักดี รองปลัด​ ​ศธ., นายภูมิพัทธ เรืองแหล่ ผู้ช่วยเลขาธิการสภาการศึกษา, นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการ กพฐ., นายประพัทธ์ รัตนอรุณ รองเลขาธิการ กอศ., นายชัยพัฒน์ พันธุ์วัฒนสกุล รองอธิบดี​ สกร., นายพิเชฐร์ วันทอง รองเลขาธิการ ก.ค.ศ.​ และนายคมกฤช จันทร์ขจร รองเลขาธิการ กช. เดินทางไปวิทยาลัยอาชีวศึกษา​เชียงราย​ เพื่อร่วมกับ​ รมว.ศธ.​ เยี่ยม​ชมผลงานนักศึกษา​ และพบปะผู้บริหารการศึกษา​ของจังหวัดเชียงราย​ พะเยา​ แพร่​ น่าน​ ทั้ง​ใน​ห้อง​ประชุมและระบบออนไลน์​ โดยได้กล่าวตอนหนึ่งว่า

“ถึงแม้จะมีคนบอกว่า​ รมว.ศ​ธ.และ​ รมช.ศธ.​ เป็น​รัฐมนตรี​ที่โลกลืม​ แต่ผมมั่นใจว่าครูจะไม่ลืม​ วงการศึกษา​จะคิดถึง​เรา​ ปัญหา​หลายอย่าง​ที่ไม่เคยแก้ไขได้​ ก็จะแก้ได้ในยุคเรา​ ขอเป็น​กำลังใจ​ให้​ครูและบุคลากร​ทาง​การศึกษา​ทุกท่าน​ และยืนยัน​ว่า​เราจะช่วยแก้ปัญหา​ให้ได้​ เราจะจับมือ​ไว้แล้วไปด้วยกัน” ​

จากนั้น​ รมช.ศธ.​ และคณะ​ ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ก่อนการประชุม​ ครม.สัญจร​ ณ โรงเรียนวัดพระเกิดคงคาราม อ.เทิง จ.เชียงราย​ โดยมี​ ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา​ ​ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ​ผอ.โรงเรียน​ ครู​ บุคลากรทางการศึกษา​ และนักเรียน​ ร่วมให้การต้อนรับ​ ในการนี้​ นางกัญจนา สัตตรัตนำพร ผอ.สพป.เชียงราย​ เขต​ 4​ รายงานผล​การ​ดำเนินงาน​ตามนโยบาย​ของ​กระทรวงศึกษาธิการ​ 3​ เรื่อง​ ได้แก่

1.​ โรงเรียนคุณภาพตามนโยบาย​ “1 อำเภอ 1 โรงเรียนคุณภาพ” ได้ขับเคลื่อนโครงการฯ​ โดยมีโรงเรียน​ในสังกัด​ สพป.​ 18 โรงเรียน​ และสังกัด​ สพม. 18 โรงเรียน​ ซึ่งมีปัญหาอุปสรรคเรื่องความต่อเนื่องในการขับเคลื่อนโครงการ​ฯ​ และการสนับสนุนงบประมาณ​จากหน่วยงานต้นสังกัด​ รวมถึง​ความเชื่อมั่นในการใช้ทรัพยากรร่วมกันของโรงเรียนเครือข่าย​ ซึ่งหากสามารถ​ข้ามข้อจำกัดเหล่านี้​ได้​ เชื่อมั่นว่าผู้เรียนจะมีทักษะ​ความรู้​ ทักษะ​อาชีพ​ และทักษะ​ชีวิต​ตามนโยบาย “เรียนดี มีความสุข”

2.​ “การส่งเสริมและพัฒนาทักษะการอ่านออกเขียนได้ของผู้เรียน” เนื่องจาก​ผู้เรียนบางส่วนเป็น​กลุ่ม​ชาติพันธุ์​ มีปัญหาเกี่ยวกับการออกเสียง​ รวมถึง​สื่อ อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องสำหรับการส่งเสริมการอ่านไม่เพียงพอ จึงทำให้ทักษะด้านการอ่านเขียนไม่สูงมากนัก​ จึง​อยากให้พัฒนาทักษะ​ครู​ และสร้างนวัตกรรมในการจัดการเรียนการสอน​ เพื่อพัฒนาการอ่านการเขียนที่หลากหลาย​ ทันสมัย และใช้ได้จริง

3.​ “การแก้ไข ปัญหาหนี้สินครู และบุคลากรทางการศึกษาให้เห็นผลเป็นรูปธรรม” ครูและบุคลากรทางการศึกษาของจังหวัดเชียงราย ขอปรับโครงสร้างหนี้กับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูเชียงราย จำนวน 40 คน ปรับโครงสร้างหนี้แล้ว จำนวน 4 คน ตามเงื่อนไขของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูเชียงราย ทั้งนี้​ยังพบปัญหาอุปสรรคอยู่​ คือ​ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูเชียงราย ไม่สามารถให้ปรับโครงสร้างหนี้ได้​ เนื่องจากไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูเชียงรายและสถาบันทางการเงินอื่นไม่สามารถปรับ​ลดดอกเบี้ยได้ตามที่ร้องขอ​

ทั้งนี้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย​ เขต 1,เขต 2 ,เขต 3, เขต 4 และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเชียงราย​ ขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบาย ด้วยมุ่งหวังให้ผู้เรียนทุกช่วงวัยได้รับการพัฒนาในทุกมิติ​ ทั้งในด้านโอกาส ความเท่าเทียม ความเสมอภาค คุณภาพและสมรรถนะที่สำคัญจำเป็นตามบริบทของประเทศและสังคมโลก​ โดยเน้นให้ผู้เรียน “เรียนดี มีความสุข” และใช้หลักการมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาจากทุกภาคส่วน ดังที่กล่าวไว้ว่า​ “จับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน”

นาย​สุรศักดิ์​ พันธ์​เจริญ​ว​ร​กุล​ รมช.ศธ.​ กล่าวว่า​ ขอบคุณทุกคนสำหรับต้อนรับที่ไม่มีของชำร่วย​ เรามาพบปะ​กันอย่างเรียบง่าย​ ประหยัด​ ตามข้อสั่งการของพล.ต.อ.เพิ่มพูน​ ชิดชอบ​ รมว.ศธ.​ ที่ได้บอกไว้ว่า​ “การลงพื้นที่ตรวจราชการต้องไม่เป็นภาระให้กับคนในพื้นที่ เราจะไม่สร้างงานที่ไม่จำเป็น​ แต่จะมาช่วยเหลือทุกท่าน” โดยรับรองว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้จะไม่เปล่าประโยชน์อย่างแน่นอน

ที่ผ่านมาการทำงานของ​ ศธ.​ ภายใต้​นโยบาย​จากนายอนุทิน​ ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี​ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ​ พล.ต.อ.เพิ่มพูน​ ชิดชอบ รมว.ศธ.​ “เรียนดี มีความสุข” ซึ่งเป็นข้อความที่ฟังง่าย​ เข้าใจง่าย​ ความสุขที่หมายถึงความสุขของทุกคนจริง​ ๆ​ ทุกระดับ​ ทุกมิติ​ โดยมุ่งหวังลดภาระครู​ นักเรียน​ และผู้ปกครอง​ ซึ่งเราได้ดำเนินการจนปรากฏขึ้นแล้วหลายเรื่อง​ เช่น​ การยกเลิกครูและบุคลากรทางการศึกษาอยู่เวรรักษาการณ์ในสถานศึกษา อย่าง​จังหวัดเชียงรายเอง​ ทราบมาว่าตำรวจเข้ามาช่วยดูแลโรงเรียนทั้งจังหวัด​ โดยมี QR Code ที่โรงเรียนควบคู่​กับ​ตู้แดง แล้วตำรวจจะเข้าไปตรวจสอบทุก 4 ชั่วโมง

“หากโรงเรียนไหนยังไม่มีตำรวจเข้าไปดูแล​ ก็ให้แจ้งเข้ามาที่ต้นสังกัด​ เราจะดำเนินการประสานงานให้ทันที ขอให้ทุกท่านสบายใจ เนื่องจากผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการทุกคน โดยเฉพาะ​ รมว.ศธ.​ ได้เคยกล่าวไว้ว่า ไม่เคยเห็นข้าวของสำคัญมากกว่าชีวิตคน ซึ่งเราก็เข้าใจว่าตอนนี้ความหนักใจไปตกอยู่ที่​ ผอ.โรงเรียน ที่อาจจะกลัวทรัพย์สิน​มีค่าของราชการสูญหาย​ จึงขอเรียนให้ทราบว่า หากสิ่งของสูญหายโดยท่านไม่ได้ประมาทเลินเล่อ​ มีมาตรการ​ดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างดีที่สุดแล้ว​ เราก็มีเหตุผลที่มาพูดคุยกันได้​ หรือหากอาคาร​ สิ่งปลูกสร้าง​ ห้องต่าง​ ๆ​ ที่เก็บทรัพย์สินมีค่าไม่แข็งแรง​ ชำรุดเสียหาย​ ก็ขอให้แจ้งเข้ามาที่​ สพฐ.​ เราจะได้หางบประมาณซ่อมแซมจัดการให้” รมช.ศธ.กล่าว

นอกจากนี้​ ศธ.​ กำลังจะคืนตำแหน่ง​นักการ​ภารโรงให้กับโรงเรียนทุกแห่ง​ หลังจากที่ขาดแคลนมานาน ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะมาช่วยลดภาระครูได้​ ขณะนี้กำลังทำเรื่องของงบกลางมาจ้างนักการภารโรง​ และจะเร่งให้ทันวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 ต้อนรับเปิดเทอม​ ส่วนปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ได้ดำเนินการของบประมาณ​ไปเรียบร้อยแล้ว​ และจะทำทุกปีเพื่อให้ได้งบจ้างนักการภารโรงอย่างต่อเนื่อง

สำหรับเรื่องครูธุรการที่ยังขาดแคลนอยู่​ ต้องขอบคุณเขตพื้นที่การศึกษาอย่างมากที่นำงานธุรการของโรงเรียนขนาดเล็กมาช่วยทำ แต่ทาง​ ศธ.เองก็จะพยายามแก้ไขเรื่องนี้ให้ได้ ขณะเดียวกันเรากำลังทำเรื่องของบประมาณ​อุดหนุนอาหารกลางวันสำหรับโรงเรียนขยายโอกาสระดับ​มัธยมศึกษา เพื่อให้ลูก​ ๆมัธยมได้มีอาหารกลางวันกิน​ และโรงเรียนจะได้ไม่ต้องไปหาวิธีที่ลำบาก​ เสี่ยงต่อการทำผิดระเบียบจัดซื้อจัดจ้าง โดยเรากำลังคุยกันว่าจะสามารถ​ให้หน่วยงานท้องถิ่น​ปรุงอาหารให้เสร็จ​ แล้วโรงเรียนก็รับมาแจกนักเรียน​ ใช้รูปแบบเดียวกันกับนมโรงเรียนได้หรือไม่​เพื่อไม่ให้​เป็นภาระครูที่ต้องไปจ่ายตลาดและมาทำกับข้าวให้นักเรียน​

รมช.​ศธ.​ กล่าวต่อไปว่า​ ข้อสำคัญที่​ รมว.เน้นย้ำอยู่​เสมอ​ คือ​ ต่อไปนี้นโยบายทุกอย่างต้องไม่เพิ่มเนื้องานให้ครู​ ส่วนของเรื่องคำสั่ง​ กฎ​ ระเบียบที่ล้าสมัย​ ไม่เกิดประโยชน์หรือเป็นภาระมากเกินไป​ หากเป็นกฎในระดับกระทรวงก็ขอให้เสนอมาได้เลย​ ผู้บริหาร​พร้อมดำเนินการยกเลิกให้​ ถึงแม้จะเป็น​เรื่องที่ต้องเสนอเข้าที่​ประชุม​ ครม.​ ก็จะดำเนินการให้ได้​ เพื่อลดภาระของท่าน​ อีกทั้งเรายังคิดกันว่าจะทำอย่างไรให้ครูมีรายได้เพิ่ม​ โดยได้หารือกับ ก.ค.ศ.​ เพื่อออกแบบการทำวิทยฐานะ​ ลดขั้นตอน​ ลดค่าใช้จ่าย​ แต่ยังต้องคงคุณภาพอยู่​ ตลอดจนระบบการจับคู่ครูคืนถิ่นก็ได้ดำเนินการไประยะหนึ่งแล้ว และที่สำคัญต่อไปนี้ต้องไม่มีการซื้อขายตำแหน่งเด็ดขาด​ ทุกคนจะต้องได้รับความเป็นธรรมอย่างเท่าเทียมกัน

ส่วนเรื่องการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากร​ทาง​การศึกษา​ ในการลงพื้นที่​ ครม.สัญจร​ครั้งนี้​ นายเศรษฐา​ ทวีสิน​ นายกรัฐมนตรี​ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง​ ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก​ โดยจะมีการพูดคุยเรื่องดอกเบี้ยกับธนาคารพาณิชย์​ เช่น​ ธนาคารกรุงไทย​ ธนาคารออมสิน​ ให้ลดอัตราดอกเบี้ย​ให้​ รวมทั้ง​หารือกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ ที่กำกับดูแลสหกรณ์ออมทรัพย์ครู​ เพื่อปรับแก้ระเบียบอีกหลายอย่าง​ ที่จะทำให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูมีวิธีแก้ปัญหาได้มากขึ้น ตลอดจนยืนยัน​จะหาแนวทางสร้างมาตรการไม่ให้ครูที่ได้รับการแก้ไขปัญหาหนี้สินแล้วไปก่อหนี้ใหม่เพิ่ม ซึ่ง​จะนำไปพูดคุยในระดับกระทรวงต่อไป

สำหรับประเด็นโรงเรียนคุณภาพ 1 อำเภอ 1 โรงเรียน ศธ.​ มีแนวทางดำเนิน​โครงการ​ฯ​ อย่างจริงจังและต่อเนื่อง ซึ่ง​เราได้เสนอของบประมาณ​ พ.ศ.​2568 ไปเรียบร้อย​แล้ว ขณะเดียวกัน​ สพฐ.​ ได้กันเงินไว้ต่างหากสำหรับการดำเนินโครงการ​ฯ​ อยู่แล้ว เพื่อช่วยเหลือทั้งในเรื่องของบุคลากร​ สถานที่​ หรือสิ่งก่อสร้างต่าง​ ๆ ตลอดจนโรงเรียนที่ไม่ได้เข้าโครงการฯ​ และโรงเรียนขนาดเล็กก็ต้องได้รับการดูแลด้วยเช่นกัน ซึ่งเครื่องมือสำคัญที่จะเข้ามาช่วย ในการลดความเหลื่อมล้ำก็คือ​ เรียนได้ทุกที่ทุกเวลา Anywhere​ Anytime​ จะเป็นกลไกสำคัญในการเข้ามาเติมเต็มช่องว่างด้านการศึกษา ให้เด็ก​ ๆ​ ที่อำเภอเทิง​ จังหวัดเชียงราย ได้เรียนกับครูที่ดังเหมือน​เด็กในกรุงเทพฯ

ร​มช.ศธ.​ กล่าวเพิ่มเติม​ว่า​ เมื่อสุดสัปดาห์​ที่ผ่านมา รมว.ศธ.​ ได้นำผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงไปสัมมนาที่จังหวัดบุรีรัมย์​ ซึ่ง​มีช่วงหนึ่งที่นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด ​ที่มาเป็น​วิทยา​กรของงานสัมมนา​ฯ​ ได้ให้ความเห็น​ว่า​ “หัวใจของการศึกษา คือ ผอ.โรงเรียน เพราะจะเป็นผู้กำหนดทิศทางให้นักเรียนได้รับการพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพ” โดยผลสอบต่าง​ ๆ​ ของนักเรียน​ ก็ล้วนเป็นสิ่งที่สะท้อนตัวเราทุกคน​ ดังนั้นเราจึงต้องความรับผิดชอบร่วมกัน​ เดินไปด้วยกัน​ และช่วยกันแก้ปัญหาการศึกษาให้ประเทศชาติอย่างสุดความสามารถ​

ปารัช​ญ์​ ไชย​เวช/ข่าว
ศุภณัฐ​ วัฒนมงคล​ลาภ​/ถ่ายภาพ​

The post รมช.ศธ.​ ‘ครูเอ’​ ลงพื้นที่​ จ.เชียงราย​ มุ่งมั่นลดภาระครู​ ยืนยัน​ ครม.สัญจร​ในพื้นที่ต้องได้ประโยชน์​ต่อวงการศึกษา appeared first on กระทรวงศึกษาธิการ.

Share This Article

Related Post