ปลัด ศธ. “สุเทพ” วางทิศทางการทำงาน สป. ยุคใหม่ “สทร. สู้ทุกเรื่อง” พร้อมบริการด้วยจิต Service Mind

มีนาคม 25, 2025 1 minute read

จังหวัดนครปฐม – 22 มีนาคม 2568 / นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดโครงการเสริมสร้างความผูกพันและเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของบุคลากรสำนักอำนวยการ (สอ.) สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยมีนางสาวนวลพรรณ วรรณสุธี ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการ สป. นางสาววาสุกาญจน์ บู่ทอง ผู้อำนวยการ สคบศ. ตลอดจนบุคลากร สอ.สป. ให้การต้อนรับและเข้าร่วม กว่า 150 คน ณ สถาบันพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา (สคบศ.)

ปลัด ศธ. กล่าวเปิดโครงการฯ พร้อมบรรยายพิเศษ “ทิศทางการดำเนินงานเพื่อการบริหารสำนักงานยุคใหม่” ตอนหนึ่งว่า การพัฒนาบุคลากรในสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ต้องเริ่มต้นจากการพัฒนาก่อนเข้าทำงานหรือปฐมนิเทศเพื่อเตรียมความพร้อมฯ โดยมุ่งเน้นไปที่การเสริมสร้างองค์ความรู้ ทั้งในเรื่องของตำแหน่งและการปฏิบัติหน้าที่ในองค์กร การพัฒนาความสามารถของบุคลากรนั้นจะต้องเป็นกระบวนการที่ค่อย ๆ สร้างขึ้น มีการเพิ่มพูนความรู้พื้นฐาน และทักษะต่าง ๆ อาทิ การเขียนผลงานทางวิชาการ การบริหารจัดการ และการสื่อสาร ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการส่งเสริมความสำเร็จของการทำงานในตำแหน่งต่าง ๆ

นอกจากนี้ยังต้องให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ตลอดเวลา การทบทวนองค์ความรู้จากการทำงานตามประสบการณ์ที่มีและมีการพัฒนาทักษะใหม่ เพื่อสร้างมาตรฐานการทำงานที่เป็นที่ยอมรับและสามารถส่งต่อความรู้ให้กับบุคลากรรุ่นหลังได้ การทำงานในสำนักงานยุคใหม่ไม่สามารถทำได้เพียงคนเดียว แต่ต้องอาศัยความร่วมมือและการเชื่อมโยงระหว่างบุคลากรจากหลากหลายแผนกและตำแหน่ง โดยการทำกิจกรรมร่วมกันจะเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการเสริมสร้างความผูกพันและความสัมพันธ์ในองค์กร ทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดี ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและสร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณภาพ

อีกประการหนึ่งที่สำคัญคือ การใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาการทำงานและเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของงาน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้เน้นย้ำถึงการนำระบบเทคโนโลยีมาใช้ในการปฏิบัติงาน โดยเฉพาะระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เช่น ระบบ e-Office การประชุมผ่านระบบ e-Meeting เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในด้านเอกสารและการใช้แรงงานบุคคล โดยสามารถจัดการงานให้มีประสิทธิภาพและรวดเร็วขึ้น ผู้ปฏิบัติงานทุกคนจำเป็นที่จะต้องเปิดรับการเปลี่ยนแปลงและเรียนรู้การใช้เครื่องมือเหล่านี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

การทำงานในสำนักงานยุคใหม่ต้องมีการจัดการเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการตั้งเป้าหมายและกำหนดระยะเวลาการทำงาน มีความรวดเร็วและมีทิศทางที่ชัดเจน จำเป็นต้องใช้เครื่องมือในการจัดการเวลา อาทิ การใช้ปฏิทินในการทำงาน การวางแผนการทำงานอย่างมีระเบียบ เพื่อให้สามารถบริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีการเปิดรับความคิดเห็นและการเรียนรู้จากผู้อื่น โดยเฉพาะจากบุคลากรในรุ่นใหม่ที่อาจมีแนวคิดและวิธีการทำงานที่แตกต่างจากรุ่นเก่า ซึ่งความแตกต่างเหล่านี้อาจเป็นโอกาสในการสร้างนวัตกรรมและแนวทางใหม่ ๆ ในการทำงาน

รุ่นพี่ต้องเปิดรับวิธีการทำงานใหม่ ๆ จากรุ่นน้อง และรุ่นน้องต้องเคารพความรู้และประสบการณ์จากรุ่นพี่ การทำงานในทีมจึงต้องมีการ “สงวนจุดต่าง แสวงหาจุดร่วม” ยอมรับความคิดผู้อื่น เพื่อสร้างความร่วมมือที่ดี มีการสร้างความสัมพันธ์ในที่ทำงาน หลักการที่สำคัญเพื่อพัฒนามนุษยสัมพันธ์ คือ “อยู่กับผู้ใหญ่ให้เป็นเด็ก” การมีความอ่อนน้อมถ่อมตน และเคารพในประสบการณ์ของผู้ที่มีอาวุโสกว่า “อยู่กับเด็กให้เป็นผู้ใหญ่” การเป็นที่พึ่งพิงและสามารถให้คำปรึกษาหรือช่วยเหลือได้ “อยู่กับรุ่นเดียวกันให้เป็นเพื่อนเล่น” การสร้างความสัมพันธ์ที่เป็นกันเองและเชื่อมโยงกันได้ในระดับเพื่อนร่วมงาน

“การทำงานในสำนักงานยุคใหม่ ไม่ได้ต้องการให้ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่เสมอไป แต่ขอให้ทุกคนมุ่งมั่นทำสิ่งเล็ก ๆ ด้วยความตั้งใจและเต็มที่ เพื่อให้ผลงานออกมาอย่างมีคุณภาพ การทำงานในองค์กรไม่ใช่แค่การทำงานตามหน้าที่ แต่ต้องมีการพัฒนาทักษะและความสามารถในการทำงานร่วมกัน รวมถึงการใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องจะทำให้ทุกคนเติบโตและประสบความสำเร็จในงานที่ทำ โดยไม่ลืมที่จะเปิดใจรับสิ่งใหม่ ๆ และเรียนรู้จากประสบการณ์ของผู้อื่น ขอให้ทุกคนมุ่งมั่นพัฒนาตนเองเพื่อสร้างความสำเร็จให้กับตัวเองและสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการของพวกเราต่อไป“

ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการ สป. กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักอำนวยการ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบายการศึกษาและพัฒนาบุคลากรภาครัฐ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานและการให้บริการแก่ประชาชน การสร้างความผูกพันของบุคลากรภายในหน่วยงานจึงเป็นสิ่งสำคัญในการเสริมสร้างบรรยากาศการทำงานที่ดี ทำให้บุคลากรมีความสุขและสามารถทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี

การเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีภายในองค์กรจะช่วยกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกเป็นเจ้าขององค์กร และส่งเสริมการทำงานเป็นทีม ผ่านกิจกรรมการบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับความสำคัญของความผูกพันในองค์กร การทำกิจกรรมเชิงปฏิสัมพันธ์เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างบุคลากร รวมถึงกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการทำงานเป็นทีมและพัฒนาศักยภาพของบุคลากร โดยได้รับความร่วมมือจากบุคลากรทุกระดับในสำนักอำนวยการ สป. ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์หน่วยงานให้เป็นสถานที่ทำงานที่มีความสุข และเป็นแรงผลักดันให้บุคลากรสามารถดำเนินงานตามภารกิจของกระทรวงศึกษาธิการได้อย่างมีประสิทธิภาพ